เมษายน 21, 2025
ticycity.com
Culture God's City

เพ็กเล้งเก็ง “เทพเจ้าแห่งสันติสุข” แห่งเดียวที่คลองเตย !

อายุกว่า 100 ปี

ช่วงนี้มีข่าวรอบโลกที่ชวนอกสั่นขวัญแขวนกันพอสมควร โดยเฉพาะข่าวสารเรื่องภัยพิบัติและคำนายต่างๆ วันนี้  Nai Mu กรูรูสายมูผู้มีเรื่องเล่ามากมายใน God’s City จากเว็บต์ไซต์และเพจ Ticy City เลยจะพาสายมูและไม่มูทั้งหลายไปเยือนย่านคลองเตย บริเวณตลาดปีนัง เพื่อสักการะ ศาลเจ้าเพ็กเล้งเก็ง หรือ เจ้าพ่อมังกรเขียว ซึ่งแตกต่างจากวัดทิพย์วารีวรวิหารที่เคยเล่าสู่กันฟังไปแล้ว ! เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจกันสักหน่อย

ทั้งนี้สืบเนื่องด้วยวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน นี้ จะเป็นวันเกิดของ “อันจี่เซี่ยอ้วง” หรือ “เทพเจ้าแห่งสันติสุข” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ เจ้าพ่อมังกรเขียว” ในเวลาต่อมา   ซึ่งเป็นศาลที่อยู่คู่กับชาวคลองเตยมานานมากนับร้อยปี ศาลปัจจุบันโยกย้ายมาจากศาลเดิม โดยทางศาลเจ้าจะจัดงิ้วฉลองตั้งแต่คืน วันที่ 22 และ 23 หากใครว่างขอเชิญนะครับ …

“อันจี่เซี่ยอ้วง” ขนาบข้างด้วยฮูหยินทั้งสอง

เทพเจ้าเพ็กเล้งเก็ง  คือประธานของศาลแห่งนี้ ขนาบข้างด้วย 2 ฮูหยิน (ฟูเหริน) คือ ต้าฟูเหริน หรือฮูหยินใหญ่และ เอ้อฟูเหริน หรือฮูหยินรอง

ภายในศาลแห่งนี้ ยังร่วมด้วย เจ้าพ่อเห้งเจีย (ไต่เซี่ยฮุกโจ้ว), ไฉ่ซิงเอี้ย และ ปึงเถ่ากง อีกด้วย

มีความปรากฏเกี่ยวกับเทพเจ้าของศาลแห่งนี้ใน “หนังสืออนุสรณ์สมาคมส่งเสริมชาวคลองเตย” ปี 2520 ว่า 

ในสมัยสามก๊ก “เฮ้งคั้ง” นายอำเภอยูนาน รักษาเมืองและรบชนะทุกครั้งที่ “เมิ่งฟู”เข้ามารุกราน จนเมื่อขงเบ้งยกทัพมาทางใต้ และทราบถึงความสามารถนี้ จึงปูนบำเหน็จให้นายอำเภอเฮ่งคั้งที่สามารถรักษาความสงบสุขของเมืองไว้ได้ ชาวบ้านจึงสร้างศาลและรูปปั้นของเฮ้งเค้ง เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ชนรุ่นหลัง

“อันจี่เซี่ยอ้วง” ขนาบข้างด้วยฮูหยินทั้งสอง

หลายร้อยปีให้หลัง ชาวแต้จิ๋วแซ่เจี่ยคนหนึ่ง ไปเป็นนายอำเภอที่ยูนาน แต่กลับต้องโทษถึงขั้นประหาร การลงโทษสมัยนั้นต้องถูกจับมัดกลางแดดร้อนจัดยืนบนหอสูง อดข้าว อดน้ำเป็นเวลา 3 วัน คนส่วนใหญ่เจอการทรมานแบบนี้ไม่มีรอดสักราย  แต่นายอำเภอแซ่เจี่ยผู้นี้กลับรอดชีวิต ผู้ใหญ่จึงคิดว่า อาจจะลงโทษคนผิดกระมัง?  จึงอภัยโทษ … ชาวบ้าน ญาติมิตรต่างมาเฝ้าถามว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร ? อดีตนายอำเภอแซ่เจี่ย ก็เล่าให้ฟังว่า มีชายแก่ผู้หนึ่งแต่งชุดขุนนางสมัยสามก๊ก มือถือร่มขาวบังแดดให้กับตัวเขาตลอดเวลาที่เขาอยู่บนหอสูง จึงไม่รู้สึกร้อนแดด กลับเย็นสบายเสียอีก ! ญาติมิตรได้ฟัง จึงชวนอดีตนายอำเภอ ไปที่ศาลรูปปั้นของท่านเฮ้งคั้ง เพราะอยากรู้ว่า เทพเจ้าเฮ้งคั้ง แสดงอภินิหารหรือไม่  พอไปถึงท่านอดีตนายอำเภอถึงกับตะลึง ขนลุก เพราะเทพเจ้าเฮ้งคั้งคือ บุคคลเดียวกับชายชราที่กางร่มขาวบังแดดช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจึงกราบไหว้สักการะด้วยความเคารพยิ่ง! 

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ท่านหมดอาลัยในชีวิตราชการ ตามช่างมาแกะสลักรูปท่านเฮ้งคั้ง เพื่อนำกลับไปที่บ้านเกิด เมืองแต้จิ๋ว  อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านได้ทำเมื่อถึงบ้านเกิดคือ สร้างศาลรูปเทพเจ้าเฮ้งคั้งเท่าตัวจริง เพื่อตอบแทนพระคุณที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ กล่าวยกย่องเป็น “เทพเจ้าแห่งสันติสุข”! 

นอกจากนั้น ยังมีเกร็ดอื่นๆ อีกหลายเรื่องที่เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ เช่น

คราวหนึ่งเมื่อเทพเจ้าแห่งสันติสุขจะขึ้นสู่สรวงสวรรค์เข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ ได้ปรากฏมังกรเขียวขนาดใหญ่โฉบมารับท่านขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ชาวเมืองจึงพร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อศาลเจ้าว่า “ศาลเจ้าเพ็กเล้งเก็ง” และเรียกชื่อเทพเจ้าแห่งสันติสุขใหม่ว่า “เทพเจ้ามังกรเขียว”! ด้วยเหตุนี้

ปึงเถ่ากง
เจ้าพ่อเห้งเจีย

หลายร้อยปีก่อน  ชาวเมืองได้พบงูเขียวที่มีอักษรจีน “เฮ้ง” สีแดงอยู่บนหัว ชาวบ้านจึงนำต้นทับทิมมาให้เป็นที่อยู่อาศัย และนำไข่ไก่สดมาให้เป็นอาหาร พร้อมจัดพิธีกราบไหว้บูชา ต่อเนื่องเป็นแรมเดือน จนกว่างูเขียวจนอันตธานหายไปเอง

ในช่วงเทศกาลแห่เทพเจ้าสันติสุขในปีหนึ่ง แม่ลูกคู่หนึ่งอยากทำขนมถวาย แม่จะใช้น้ำตาลทรายแดง , ลูกจะใช้น้ำตาลทรายขาว สุดท้ายลูกเถียงสู้แม่ไม่ได้ แม่จึงใช้น้ำตาลทรายแดง เมื่อนึ่งขนมเสร็จ ปรากฏว่า ขนมทุกก้อน ซีกหนึ่งเป็นสีน้ำตาล ซีกหนึ่งเป็นสีขาว อะไรที่ถวายด้วยใจศรัทธา ท่านรับไว้หมด  ! 

คราวหนึ่ง จัดให้มีการแสดงงิ้วฉลองศาลเจ้า นายอำเภอที่เป็นคนยูนานมารับราชการที่เมืองแต้จิ๋ว จึงเข้าใจว่า ท่านเทพเจ้าคงจะโปรดการแสดงงิ้วเป็นภาษาพื้นเมืองยูนานมากกว่าแต้จิ๋ว แถมยังให้ย้ายไปเล่นหน้าที่ทำการอำเภอที่โอ่โถงกว่า  ปรากฏว่า เมื่อนักแสดงจะได้ฤกษ์ออกโรง ชุดงิ้วทั้งหลายที่ต้องใช้ กลายเป็นงูนับพันตัว ปรากฏการณ์นี้ นายอำเภอจึงให้คณะงิ้วกลับไปเล่นที่ศาลเจ้า และเล่นตามภาษาที่คิดว่าเหมาะสมทันที

ธงเจ้าพ่อมังกรเขียว
โอ่งน้ำมนตร์

ครั้งหนึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดแต้จิ๋วที่เป็นคนเย่อหยิ่ง และมีจิตอิจฉาที่ชาวบ้านหันไปนับถือเทพเจ้าแห่งสันติสุขมากกว่าตนเอง ในวันแห่เทพเจ้า จึงจงใจแต่งขบวนออกตรวจท้องที่ เมื่อทั้ง 2 ขบวนมาป๊ะกันบนถนนสายหนึ่ง ผู้ว่าสั่งให้ขบวนศาลเจ้าถอยหลังเพื่อแสดงอำนาจข่ม ปรากฏว่า จู่ๆ ธงประจำตำแหน่งของผู้ว่าฯ ก็ถูกเพลิงไหม้เป็นจุล โดยไม่ทราบสาเหตุ กาลต่อมา ผู้ว่าคนนี้ ถูกประหารชีวิตเพราะผิดอาญาแผ่นดิน ! 

เรื่องสุดท้ายเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ … จังตี่ผิง ทหารฝ่ายเหนือ ยกทัพประชิดแต้จิ๋ว ตั้งกองกำลังปืนใหญ่ไว้ที่เชิงเขา จะเอาปืนใหญ่ระดมยิง พอทหารเล็งเป้าหมายแล้ว ปรากฏมีชายแก่ผลักปืนใหญ่ เบี่ยงรัศมี ลูกปืนตกแม่น้ำทุกครั้ง จังตี่ผิงผิดสังเกตจึงเรียกชาวบ้านมาสอบถาม ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า น่าจะเป็น เทพเจ้าแห่งสันติสุขแสดงอภินิหารช่วยชาวบ้าน จังตี่ผิง จึงปลอมตัวเข้าเมือง ไปเสี่ยงเซียมซีกับเทพเจ้าแห่งสันติสุข ท่านว่า อย่าได้คิด ให้กลับไปเสีย ถ้ายังดื้อดึงฉิบหายแน่นอน ! จังตี่ผิงมองใบหน้ารูปปั้นนั้นอย่างพินิจ นี่มัน คนแก่ที่ผลักกระบอกปืนใหญ่นี่หว่า ! ไม่เอาแล้ว… เผ่นดีกว่า ชาวแต้จิ๋วจึงรอดพ้นภัยพิบัติในครั้งนั้น ! 

สำหรับศาลเจ้าเพ็กเล้งเก็ง อยู่ที่คลองเตยมานาน ตั้งแต่สมัยศาลเก่าแก่ มีอายุกว่า 100 ปี  ว่ากันว่า นักพรตลัทธิเหมาซาน ลี้ภัยในช่วงกลียุคของเมืองจีนเข้ามาตั้งรกรากและตั้งศาลแห่งนี้ขึ้น เรียกว่าเป็นศาลบรรพชนของชาวคลองเตยก็คงไม่ผิดนัก

โดยพ่อค้า – แม่ค้า – นักธุรกิจ รวมถึงคนเกิดปีมะโรง-มะเส็ง จากสถานที่ใกล้ไกล นิยมมาสักการะบูชาท่าน  ขอในเรื่องความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าและธุรกิจต่างๆ  

และอย่างที่ Nai Mu กล่าวไว้แต่ต้น  วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน นี้ จะเป็นวันเกิดของเพ็กเล้งเก็ง เทพเจ้าแห่งสันติสุข   และงิ้วฉลองตั้งแต่คืนวันที่ 22 และ 23 เมษายน 2568 ปักหมุดไว้ได้เลย …

เรื่อง  :  Nai Mu

Leave feedback about this

  • Rating

PR news, TICY PR

‘ททท.’ จั

Destination, Food

‘โรงแรมคิ

Destination, Food

‘โกจิ คิท

Living, Trends

เปลี่ยนบร

Motor, Trends

คุณธวัช ส

Destination, Food

ที่ห้องอา