ticycity.com Contents Sustainability 4 ความจริงเกี่ยวกับแซลมอนนอร์เวย์ที่คนไทยอาจยังไม่รู้
Sustainability

4 ความจริงเกี่ยวกับแซลมอนนอร์เวย์ที่คนไทยอาจยังไม่รู้

roasted salmon steak in cast iron pan served with mashed potato

ถ้าพูดถึง “แซลมอน” คนไทยจำนวนมากน่าจะคิดถึงซูชิ ซาชิมิ หรือเมนูวันเสาร์สุดฟินแบบ Salmon Saturday แต่เบื้องหลังความอร่อยสีส้มฉ่ำนั้น มีเรื่องราวและข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากกว่าที่คิด — โดยเฉพาะแซลมอนจากนอร์เวย์ ประเทศที่ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2568 ด้วยจำนวนกว่า 38 ล้านมื้อต่อวัน ส่งออกไปกว่า 150 ตลาดทั่วโลก

นี่คือ 4 ความจริงเกี่ยวกับแซลมอนนอร์เวย์ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ และช่วยให้เข้าใจว่าทำไม “Seafood from Norway” ถึงครองใจคนไทยมานาน

เมื่อพูดถึง “แซลมอน” คนไทยจำนวนมากน่าจะนึกถึงเมนูญี่ปุ่นสุดฮิต หรือโมเมนต์แสนอบอุ่นในวันหยุด แต่เบื้องหลังความอร่อยสีส้มฉ่ำที่เราคุ้นเคย ยังมีเรื่องราวน่าทึ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน โดยเฉพาะแซลมอนนอร์เวย์จากประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลกปี 2568 ที่ส่งออกมากกว่า 38 ล้านมื้อต่อวัน สู่กว่า 150 ตลาดทั่วโลก

หนึ่งในความจริงที่ซ่อนอยู่ คือ แซลมอนนอร์เวย์เติบโตในน้ำทะเลที่เย็นจัดและใสสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของฟยอร์ดช่วยให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง ว่ายน้ำต้านกระแสจนเนื้อแน่น มีไขมันแทรกอย่างสมดุล และให้รสชาติหวานมันแบบที่แฟนแซลมอนทั่วโลกหลงรัก รวมถึงผู้บริโภคชาวไทย

อีกด้านหนึ่ง นอร์เวย์ยังขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงปลาและการทำประมงแบบยั่งยืน มุ่งรักษาระบบนิเวศของทะเล ทั้งยังผสมผสานประเพณีดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้โลกยังคงมีอาหารทะเลคุณภาพดีส่งต่อไปอีกหลายรุ่น การจัดงาน Seafood from Norway Festival 2025 ในกรุงเทพฯ ก็สะท้อนแนวคิดนี้อย่างชัดเจน ผ่านประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟที่พาคนไทยเข้าใจวัฒนธรรมทะเลของนอร์เวย์ลึกซึ้งกว่าที่เคย

ความนิยมของแซลมอนนอร์เวย์ในไทยเองก็มีเบื้องหลังที่ยาวนาน จากยุคที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มบูมกว่า 5,700 ร้านทั่วประเทศ ไปจนถึงเรื่องราวระดับตำนานอย่าง Project Japan ซึ่งชาวนอร์เวย์นำแซลมอนสดไปให้เชฟญี่ปุ่นใช้ทำซูชิเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ทำให้แซลมอนกลายเป็นวัตถุดิบที่คนไทยคุ้นเคยทั้งในอาหารญี่ปุ่นและเมนูไทย ๆ ที่สร้างสรรค์มากขึ้นในทุกวันนี้

หัวใจของเรื่องราวนี้ยังผูกโยงกับความสัมพันธ์ไทย–นอร์เวย์ที่ยาวนานถึง 120 ปี และสื่อสารออกมาอย่างสวยงามผ่านตัวแทนอย่าง ญาญ่า–อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรีเซนเตอร์ของ Seafood from Norway ประเทศไทย ผู้มีรากเหง้าผสมผสานสองวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว เธอเล่าอย่างจริงใจว่า

“สิ่งที่ญ่ารักมากอย่างหนึ่งเกี่ยวกับรากเหง้าของตัวเอง คือวัฒนธรรมอาหารที่สามารถดึงทุกคนให้มารวมกันได้ และครัวที่เปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน ครอบครัวเราจะกินข้าวพร้อมหน้ากันเสมอ ทำอาหารด้วยเมนูจากอาหารทะเลนอร์เวย์หลากหลายแบบ บางวันก็ผสมกับอาหารสไตล์ไทย ๆ ด้วย เมนูที่ทำให้คิดถึงบ้านและช่วงวัยเด็กทันทีคือแซลมอนอบ (Baked Salmon) ที่คุณพ่อทำได้อร่อยมาก ๆ ถ้าที่บ้านมีเตาอบ แค่นำแซลมอนใส่ในฟอยล์ วางเลมอนสามชิ้นด้านบน แล้วโรยผักชีลาวไว้ข้าง ๆ ง่ายมากและอร่อยสุด ๆ ค่ะ”

และยังเสริมถึงความหมายของการนั่งกินข้าวร่วมกันว่า

“ทุกวันนี้ญ่าเจอคนเยอะมากจากการทำงาน แต่ช่วงเวลาที่ได้สานสัมพันธ์และพูดคุยกันอย่างมีความหมายจริง ๆ กลับเป็นเวลาที่ได้กินข้าวด้วยกัน ได้นั่งลงที่โต๊ะแล้วแบ่งปันของอร่อยกัน นั่นแหละคือช่วงที่บทสนทนาและความผูกพันจริงๆ เริ่มขึ้นค่ะ”

คำพูดของเธอช่วยทำให้คนไทยมองแซลมอนนอร์เวย์ในมิติที่ลึกกว่าเดิม—ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่เป็นเรื่องของ “ความอบอุ่น” ที่ถูกร้อยเรียงผ่านวัตถุดิบคุณภาพและช่วงเวลาบนโต๊ะอาหาร

ท้ายที่สุด ความน่าสนใจของแซลมอนนอร์เวย์จึงไม่ได้อยู่แค่ในเนื้อปลาสีส้มสด แต่คือการเดินทางจากน้ำทะเลอันใสสะอาด ความเชี่ยวชาญของชาวนอร์เวย์ที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้บริโภคไทยที่ยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Seafood from Norway ได้ที่ Instagram:  Seafood from Norway Thailand และ เว็บไซต์

Exit mobile version