ร้านอาหารดังจากโตเกียว Den Kushi Flori หลังจากได้เป็น ร้านอาหารแนะนำ ใน มิชลินไกด์ ประเทศไทย 2024 เผยเมนูใหม่ประจำฤดูกาล Winter
Kushi หมายถึง อาหารที่เสิร์ฟแบบใช้ไม้เสียบ อาหารของ Den Kushi Flori (เดน คูชิ ฟลูโลริ) มีเอกลักษณ์จากการนำจุดเด่นของอาหารฝรั่งเศส มาผสมผสานกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ในสไตล์ Innovative และปรุงจากวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น 100% เพื่อยังคงรสชาติและคอนเซ็ปต์ออริจินัลจากร้านที่ญี่ปุ่น ซึ่งวัตถุดิบที่เลือกใช้ไม่ใช่เฉพาะการคัดเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคด้วย
ความลงตัวนี้มาจากความเชี่ยวชาญของ 2 เชฟที่เป็นเพื่อนกันมานาน คือ เชฟ ซาอิยุ ฮาเซกาวา (Zaiyu Hasegawa) เจ้าของร้านและเชฟร้าน “Den” ร้านไคเซกิชื่อดังในโตเกียวที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 จากการประกาศผล 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย “Asia’s 50 Best Restaurants for 2022” และเชฟฮิโรยาสึ คาวาเตะ (Hiroyasu Kawate) เจ้าของร้านและเชฟร้านอาหารฝรั่งเศสแนวโมเดิร์น “Florilège” แห่งโตเกียว มีชื่อเสียงเรื่องการรังสรรค์เมนูได้อย่างงดงามจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น รสชาติมีความอร่อยแบบซับซ้อนที่น่าค้นหา ซึ่งได้รับรางวัลอันดับ 3 “Asia’s 50 Best Restaurants for 2022”
ปี 2563 เชฟทั้ง 2 จับมือกันเปิดร้าน Den Kushi Flori ที่ชิบูยา กรุงโตเกียว โดยเลือกใช้คำว่า “Kushi” เชื่อมชื่อร้านของเชฟทั้ง 2 ซึ่ง Kushi เป็นอาหารที่เสิร์ฟแบบใช้ไม้เสียบ สื่อถึงการเชื่อมต่อสไตล์อาหารของ 2 ร้าน และการเชื่อมความผูกพันระหว่างลูกค้าและร้านอาหารด้วยกัน
Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ ได้ เชฟซูซูมุ ชิมิสึ (Susumu Shimizu) เฮดเชฟจากสาขาญี่ปุ่น ผู้ที่ทำให้ร้านสาขาญี่ปุ่นได้รับ 1 ดาวมิชลินในเวลาอันรวดเร็ว และมีชื่อเสียงโด่งดังจนต้องจองที่นั่งล่วงหน้าหลายเดือน ย้ายมาประจำการที่ไทย
เชฟชิมิสึได้นำประสบการณ์จากการทำงานในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงทั้งที่ญี่ปุ่นและฝรั่งเศส อาทิ ร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวอย่างเช่น ร้าน “Marc Veyrat”, ร้าน “Arpège” ของเชฟ Alain Passard ผู้ซึ่งจุดประกายให้เชฟชิมิสึมีแรงบันดาลใจในการเป็นผู้เชี่ยวชาญอาหารจานเนื้อ (meat specialist) และนำพาความชำนาญจากประสบการณ์การขายเนื้อที่ร้าน Hugo Desnoyer ซึ่งเป็นร้านขายเนื้อที่ดีที่สุดในปารีส มารังสรรค์เมนูที่น่าหลงใหลให้กับ Den Kushi Flori
เมนูเสิร์ฟในรูปแบบคอร์ส เรียกว่า Innovative cuisine อันมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ไคเซกิ (kaiseki) แต่นำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่และน่าสนใจยิ่งขึ้น
เมนูใหม่ประจำฤดูกาล Winter มีอาทิ
• เทอรีนผักเคล้าด้วยน้ำซุปดาชิและไข่ปลาแซลมอน (Terrine de Légumes topped with Ikura, Dashi and Wasabi)
• ลูกชิ้นกุ้งสไตล์ญี่ปุ่นเสิร์ฟมาในต้มข่าไก่สูตรเฉพาะ (Shrimp Ball (Ebi Shinjo) with Tom kha Gai Soup)
• ลูกชิ้นเป็ดและอกเป็ดเสียบไม้ เสิร์ฟพร้อมผักกวางตุ้งขนาดพอดีคำและซอสฟัวกราส์ (Duck Meat Ball and Duck Breast Kushi with Bok Choy and Foie gras Sauce)
• ข้าวอบหม้อดินผักรวม ใส่เห็ด, โกโบ และแครอท ท็อปด้วยลิ้นวัวคัดพิเศษชิ้นหนานุ่ม (Clay pot Rice with Mix Vegetable (Mushroom, Gobo or Burdock Root, Carrot) and Beef tongue)
• พุดดิ้งนมถั่วเหลืองโรยทรัฟเฟิล ทานคู่กับหอยเชลล์ย่างราดซอสหัวไช้เท้า (Soy Milk Pudding and Charred Scallop with Daikon Sauce and top with Truffle)
• หอยเป๋าฮื้อนึ่งราดครีมซอสน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง ฟักทองและเทมปุระมันฝรั่ง (Steamed Abalone with Apple vinegar Cream Sauce, Pumpkin and Potato Tempura)
• ของหวาน พุดดิ้งคาราเมลและไดฟูกุ (Dessert, choice of Caramel Pudding or Daifuku Mochi)
Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ชั้น LG อาคารเอราวัณ แบงค็อก ที่สะดวกทั้งในการเดินทางและจอดรถในอาคาร เชฟชิมิสึและทีมเชฟ พร้อมโชว์วิธีการปรุงอาหารในรูปแบบ Innovative cuisine ที่น่าสนใจและเสิร์ฟผ่านหน้าเคาน์เตอร์ให้กับลูกค้า ซึ่งนอกจากความอร่อย ลูกค้ายังจะได้รับความเพลิดเพลินและชื่นชมความคล่องแคล่วว่องไวของเชฟแบบใกล้ชิด
Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) มื้อกลางวัน 5 คอร์ส ราคา 2,800++บาท (เวลา 12.00 – 15.00 น. last booking 13.00 น.) และ มื้อ Dinner 7 คอร์ส ราคา 3,500++บาท (เวลา 18.00 – 21.30 น. last booking 19.30 น.) สอบถามโทร.02 022 0200, LINE OA: @denkushifloribkk