“เทพเจ้ากวนอู” ผู้กุมโฉนดที่ริมน้ำเจ้าพระยา ! 

 หนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่อง “ที่ดิน” ละก็ตาม Nai Mu กรูรูสายมูผู้มีเรื่องเล่ามากมายใน God’s City จากเว็บต์ไซต์และเพจ Ticy City มาได้เลย เพราะวันนี้ Nai Mu จะพาสายมูและไม่มูทั้งหลายจะพาไปสักการะ “เทพ เจ้ากวนอู” ผู้กุมโฉนดที่ริมน้ำเจ้าพระยา ! 

เหตุเพราะศาลกวนอูแห่งนี้เป็นแหล่งพึ่งพิงในเรื่องความเชื่อมหัศจรรย์ ของคนที่กำลังจะซื้อ-ขาย หรือมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน  โดยผู้ศรัทธาจะมาบอกกล่าว และนำ“สำเนาโฉนดที่ดิน” (ถ้ามี) มาฝากไว้ให้เทพเจ้ากวนอูพิจารณา ยามเมื่อตอนมาขอความช่วยเหลือหรือบนบานศาลกล่าว  

“กวนอู” เป็นเทพเจ้าที่มีคุณสมบัติแบบ “ครบ จบม้วนเดียว” !  วัดและศาลเจ้ากวนอู แพร่หลายไปทั่วโลก แค่ที่ปักกิ่งมีศาลมากถึง 116 แห่ง,  ไต้หวัน 500 แห่ง เป็นเทพเจ้าที่รับรองด้วยตำแหน่ง “ขวัญใจมหาชน” โดยแท้ ! 

ในอดีตเทพเจ้ากวนอูมีคุณสมบัติ “ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ภักดี”  ปัจจุบันปรับตามยุคสมัยเป็น “อำนาจ วาสนา บารมี โชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง”  เพราะท่านเป็น 1 ใน 28 ของตำแหน่งเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตามความเชื่อของชาวจีน ! 

บอกได้เลยว่าตั้งแต่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินยันสามัญชน มิตรสหาย และไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ต่างก็รักและเคารพท่าน ไม่ว่าผู้นั้นจะมีฐานะยากดี มีจน ชนชั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ย หน้าที่ตำแหน่งทางราชการใด สายบู๊หรือสายบุ๋น , ปัญญาชน นักการศึกษา ผู้คงแก่เรียน , ตำรวจ , โจรปล้นสดมภ์ หรือ เจ้าสำนักคุณธรรมความเชื่อต่างๆ ทางศาสนา  พุทธมหายาน, เต๋า ,ขงจื้อ ล้วนยึดถือท่านเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อตนทั้งสิ้น พร้อมชี้แจงแถลงไข ผ่านการสร้างขึ้นเรื่องรองรับ 

การหารูปเคารพของท่านเพื่อบูชาไม่ใช่ของยาก เพียงแค่เดินเข้าวัดหรือศาลเจ้าจีน เจอแน่นอน ! อธิษฐาน ปักธูปได้เลย 

และถ้าต้องการจะแวะเวียนไปศาลหรือวิหารที่เทพเจ้ากวนอูเป็นประธาน ในเมืองไทยมีอยู่หลายจังหวัด เช่น  ชลบุรี, นนทบุรี, สมุทรสาคร, สุราษฎร์ธานี  ฯลฯ 

การหารูปเคารพของท่านเพื่อบูชาไม่ใช่ของยาก เพียงแค่เดินเข้าวัดหรือศาลเจ้าจีน เจอแน่นอน ! อธิษฐาน ปักธูปได้เลย 

แต่สำหรับศาลกวนอูในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียง เช่น ศาลเจ้าพ่อกวนอู-เจ้าพ่อม้า บริเวณตลาดเก่า เยาวราช รวมทั้งศาลแห่งนี้ที่  Nai Mu  อาสามาเป็นไกด์พาไปมูในวันนี้ เป็น “ศาลเจ้ากวนอู” อีกแห่ง ตั้งอยู่ในย่านคลองสาน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังวัดอนงคาราม ในบริเวณชุมชนสมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน เป็นศาลที่มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ปลายกรุงศรีอยุธยาโน่น ถึงวันนี้ผ่านมานานถึง 289 ปีแล้ว มีการปรับปรุงซ่อมแซมกันมาหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน

และถ้าต้องการจะแวะเวียนไปศาลหรือวิหารที่เทพเจ้ากวนอูเป็นประธาน ในเมืองไทยมีอยู่หลายจังหวัด เช่น  ชลบุรี, นนทบุรี, สมุทรสาคร, สุราษฎร์ธานี  ฯลฯ 

นับย้อนในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการบูรณะเก๋งจีนทุกครั้ง เพื่อรองรับ เทพเจ้ากวนอูในยุคแรกถึง  3 พระองค์ 

และในอดีต สถานที่บริเวณนี้ เป็นแหล่งที่เรือสำเภาที่ต้องมาจอดเทียบท่าที่นี่ ! 

กวนอูองค์แรก – พ.ศ. 2279 ชาวฮกเกี้ยนผู้หนึ่ง ได้นำเทพเจ้ากวนอูองค์เล็ก แกะสลักจากไม้จันทน์หอมติดตัวมาจากเมืองจีนด้วย และต้องการให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา จึงสร้างเก๋งจีนแล้วอัญเชิญเทพเจ้ากวนอูขึ้นสถิตในศาลเล็กๆ  ซึ่งปีนั้น ตรงกับแผ่นดินของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  (เมืองจีน ตรงกับรัชสมัยของเฉียนหลงฮ่องเต้ ราชวงศ์ชิง)

 Nai Mu ขอแทรกเกร็ดเล็กๆ ว่า สมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ ได้ลดบทบาทของ “เทพเจ้างักฮุย” หรือ เยว่เฟย ซึ่งคนจีนเคารพและยกย่องมาก่อน แต่เฉียนหลงฮ่องเต้ คือกษัตริย์องค์สุดท้ายที่สถาปนา เลื่อนตำแหน่ง ชูบทบาทของ “เทพเจ้ากวนอู” เข้าแทนที่  ด้วยเหตุที่ นักรบงักฮุย เป็นปรปักษ์กับบรรพบุรุษราชวงศ์ชิง ! นั่นเอง

กวนอูองค์สอง – อีก 66 ปีต่อมา หรือ พ.ศ. 2345 รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี  (เมืองจีน ตรงกับรัชสมัยเจียซิ่งฮ่องเต้ ราชวงศ์ชิง)  ได้มีการบูรณะเก๋งจีนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับเทพเจ้ากวนอู องค์ที่สองในลักษณะนั่งลูบเครา  ซึ่งใหญ่กว่าองค์แรก พร้อมอัญเชิญให้ร่วมสถิตบนเก๋งเดียวกัน ืั้งยังติดป้ายชื่อเก๋งว่า “กวง ตี โกว เปี่ย”

กวนอูองค์สาม – พ.ศ. 2365 แผ่นดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เจ้าสัวคุงเส็ง มีศรัทธา ได้มอบเทพเจ้ากวนอูอีกองค์หนึ่งเป็นลำดับที่สาม ในลักษณะอ่านหนังสือ ให้กับศาลแห่งนี้ องค์นี้ใหญ่กว่า 2 องค์แรก  พร้อมทั้งบริจาคเงิน เพื่อบูรณะเก๋งจีนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้เทพเจ้ากวนอูทั้ง 3 พระองค์ได้อยู่ร่วมกันในศาล

ศาลแห่งนี้เคยบูรณะซ่อมแซมมาหลายครั้ง เช่น ในรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เมื่อซ่อมแล้วเสร็จ ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อศาลเป็น “บู้ เจี่ย เบี่ย” ต่อมาได้ ซ่อม และทาสีใหม่ ในรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9  

โดยในช่วง พ.ศ. 2509  เกิดเหตุมหัศจรรย์ยาวนานติดต่อกันนานหลายเดือน  เป็นข่าวและเป็นที่เลื่องลือไปทั่วกรุงเทพฯ  ด้วยเหตุ หิ้งบูชา , ถ้วยน้ำชา และกระถางธูป เกิดสั่นไหวอย่างไม่มีสาเหตุ  ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานต้องเข้ามาที่ศาลกวนอูเพื่อพิสูจน์ ด้วยเกรงว่า จะเป็นการเล่นจำอวดหลอกชาวบ้าน  ตรวจแล้วก็ไม่พบการหลอกลวง บันทึกว่า เป็นสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ยิ่ง ! 

ปัจจุบัน ศาลแห่งนี้จะรูปเคารพเทพเจ้ากวนอูหลากหลายปาง ด้วยวัสดุการสร้างที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีคนมามอบให้  และทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. จะมีประชาชนนิยมมาไหว้สักการะขอพรเทพเจ้ากวนอูที่ศาลแห่งนี้ และอย่างที่บอกในตอนต้นว่า คนที่มีปัญหาเรื่องที่ดิน มักจะมาขอพรและบนบานศาลกล่าวกับท่าน ! เป็นพิเศษ 

ถอดรองเท้า ก้าวข้ามธรณีประตู ทางขวามือ ลำดับแรกจะพบกับ “ม้าเซ็กเธาว์” เจ้าพ่อม้าคู่กายของกวนอู ประธานกลางศาลแห่งนี้คือ เทพเจ้ากวนอู , ด้านขวาของเก๋งประธาน คือ  ฉื่อปุยเนี้ยเนี้ย (เจ้าแม่กวนอิม) , เจ้าแม่ทับทิม ส่วนด้านซ้ายมือคือ โหงวเฮี้ยงไต้ตี่ เป็นแม่ทัพสวรรค์ ธาตุไฟ มีหน้าที่อารักขาตำหนักเง็กเซียนฮ่องเต้ (หรือ พระอินทร์ “เง็กเซียนฮ่องเต้” คือ ตำแหน่ง เทพทั้งหลายจะถูกคัดเลือกมาดำรงตำแหน่งนี้ตามวาระ) โหงวเฮี้ยงไต้ตี่ มี 3 ตา (เช่นเดียวกับเทพเอ้อหลาน – ธาตุดิน) ถือก้อนอิฐรูปทรงพีรามิด ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธ มีคุณคือ ปราบปีศาจพญาอีกาไฟ 500 ตัว , ปราบมังกรเจ้าสมุทร นอกจากนี้ ท่านยังผิดกฎสวรรค์บางข้อ เช่น ชอบเล่นไฟจนลามไหม้ตำหนักเง็กเซียนฮ่องเต้  เรื่องนี้ เง็กเซียนฮ่องเต้ให้ทำคุณไถ่โทษ ลงไปเกิดในโลกมนุษย์เพื่อดูแลเรื่องฟืนไฟ , อีกความผิดหนึ่งคือ ไปช่วยแม่ในนรก ซึ่งเง็กเซียนเห็นว่าที่ทำไป แม้จะผิดกฎสวรรค์ แต่ได้เห็นถึงความกตัญญู จึงได้ให้ช่วยดูแลพระศาสนา …

สักการะเทพเจ้ากวนอูในศาลแล้ว ไปที่วิหารริมน้ำเจ้าพระยา มีรูปเคารพของพระเจ้าตากสินมหาราช และองค์เจ้าแม่กวนอิม คนส่วนใหญ่จะจบที่ตรงนี้ ! แต่ถ้าขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับ “เทพเจ้ากวนอู ในปาง เง็กเซียนฮ่องเต้” และฉลองพระองค์สีเขียว ในตู้โชว์ ซึ่งเมื่อขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธเจ้า 3 พระองค์ตามคติมหายาน …  

เทพเจ้ากวนอู เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ ในยุคสามก๊ก คนจีนเรียก “กวนกง” บ้าง “กวนตี้” บ้าง ตำรวจนับถือเทพเจ้ากวนอูถือง้าวในมือขวา , โจรจะนับถือ เจ้าพ่อกวนอูถือง้าวในมือซ้าย , บางแห่ง นับถือท่านในฐานะ “เง็กเซียนฮ่องเต้” และ ไฉ่ซิงเอี้ย , ในพุทธศาสนามหายาน ท่านคือ พระสังฆารามโพธิสัตว์ ผู้คุ้มครองดูแลพระศาสนา สนับสนุนด้วยเรื่องวิญญาณกวนอูและลูกชายรบเร้าขอฟังธรรม พระอาจารย์จื้ออี่จึงแสดงธรรมจนดวงวิญญาณกวนอูถวายตัวเป็นพุทธมามกะ , ในลัทธิเต๋า กวนอูมีฐานะเป็นผู้ปราบปีศาจ สนับสนุนด้วยเรื่อง จางจี้เซียน เชิญเทพเจ้ากวนอูมาปราบปีศาจซือโหยว เทพสงครามที่กักเกลือไว้  , ลัทธิขงจื้อ ยกย่องกวนอู เหตุเพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้ง เมตตา, คุณธรรม, มารยาท, ปัญญา และสัจจะ , นักการศึกษา ผู้คงแก่เรียน จะยึดเอาภาพหรือรูปเคารพ กวนอูอ่านหนังสือ  นอกจากนี้ยังเป็นเทพพิทักษ์ในอาชีพต่างๆ เช่น จำนอง, ช่างทอง, ผ้าไหม ผ้าต่วน และบัญชีอีกด้วย 

ดังนั้น One Stop Servive God แบบเทพเจ้ากวนอูนี้ หาได้ยากยิ่ง ! ยกมือกราบท่าน เป็นการด่วนได้เลย ไม่ผิดหวังแน่ ! 

เรื่อง :  Nai Mu