ศาลเจ้า โรงเจ
ลัทธิเต๋า เรียก “เต๋าบ๊อ” ”
สายบุญ..สายสุขภาพเตรียมพร้อมกันหรือยัง ? ทุกปี เทศกาลกินเจ ถูกกำหนดไว้ในวันขึ้น 1 ค่ำ – 9 ค่ำ เดือน 11 (ปฏิทินจันทรคติจีน) โดย ปี พ.ศ. 2567 ตรงกับวันที่ 3 – 11 ตุลาคม Ticy City มีเรื่องเล่าจาก Nai mu ที่หลายคนคงไม่ทราบ ลัทธิเต๋า มีเทวีพระองค์หนึ่งเรียกสั้นๆว่า “เต๋าบ๊อ” หรือชื่ออื่นๆ เช่น ”เต๋าบ๊อหง่วนกุน” และอื่นๆ ทรงเป็นเทพมารดาผู้สร้างจักรวาล มีอำนาจเหนือกว่าพระสุริยะและจันทราเป็นเทพผู้ให้กำเนิดหมู่ดาวทั้งหลาย ให้คุณแก่ชะตาชีวิต รูปลักษณ์ของ “เต๋าบ๊อ” นั้นมีผมดำขลับ ทรงเครื่องอย่างจักรพรรดินี บางคราวยังนิยมไหว้ควบคู่กับไทส่วยเอี้ย (เทพเจ้าคุ้มครองชะตา) อีกด้วย
มหายาน-วัชรยานเรียก “พระมารีจิโพธิสัตว์”
เทวีพระองค์เดียวกันนี้ ทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานและวัชรยานที่นับถือกันมากเรียก “พระมารีจิโพธิสัตว์” เทวีพระองค์นี้ปรากฏในคัมภีร์มารีจิโพธิสัตว์ธารณีสูตร เป็นพระมารดาแห่งแสงสว่าง
เจริญงอกงาม และความอุดมสมบูรณ์ มีพลังอำนาจในการป้องกันสิ่งชั่วร้าย รูปลักษณ์ของท่านมี 3 พักตร์ หน้าตรง สวยสดงดงามแสดงถึงพระเมตตา กรุณา พระพักตร์ขวาเป็นหน้ายักษ์ พิโรธดุร้าย และด้านซ้ายเป็นหน้าสุกร อาวุธครบ ทั้ง 2-6-12-16 กร มือซ้าย-ขวาบนสุดชูสัญลักษณ์แทน พระอาทิตย์ และพระจันทร์ ! ประทับบนดอกบัว พาหนะของท่านคือ หมูป่า 7 ตัว
ที่ทิเบตทีเรื่องเล่าว่า พระมารีจิโพธิสัตว์ เคยอวตารเป็น “วัชรวราหี” (หมูเพชร) ลงมาปราบพวกมิจฉาทิฏิ ในสมัยโบราณ แม่ทัพตาดชื่อ ยุนคระ ยกทัพเข้าตีทิเบต ขณะบุกรุกวัดสัมเดงได้สบประมาทแม่ชีเจ้าอาวาส ว่า ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์จริงก็แปลงร่างเป็นหมูให้เห็น ปรากฎว่า เมื่อทัพทหารบุกรุกทลายกำแพงวัดเข้าไป ก็เห็นหมูเต็มวัดไปหมด ด้วยความตกใจจึงหยุดการปล้น กลับออกไป แม่ชีเจ้าอาวาสในรูปของหมูเพชร และนางชีลูกวัดทั้งหลายก็คืนรูปเดิม ภายหลังฝ่ายทหารกลับมายังวัดแห่งนี้ พร้อมขอขมาและถวายข้าวของมีค่าให้วัดเป็นจำนวนมาก
ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง
ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ในเทศกาลกินเจ หมายถึง พระอาทิตย์, พระจันทร์ ,พระอังคาร, พระพุธ,พระพฤหัสบดี, พระศุกร์,พระเสาร์, พระราหู และพระเกตุ
ทางลัทธิเต๋า เทพทั้ง 9 พระองค์ ได้รับคำสั่งจากเต๋าบ๊อให้มาจุติยังโลกมนุษย์ เพื่อสร้างธรรมเนียม แบบแผนและการดำรงชีวิต รวมทั้งควบคุมธาตุทั้งหลายให้สมดุล ! ภายหลังได้นำชื่อของกษัตริย์ทั้ง 9 ไปตั้งเป็นชื่อดาว ได้แก่ ดาวเทียนผิง (ทิศเหนือ-ธาตุน้ำ), ดาวเทียนเร่ย (ทิศตะวันตกเฉียงใต้ –ธาตุดิน), ดาวเทียนชง (ทิศตะวันออก-ธาตุไม้), ดาวเทียนฟู (ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – ธาตุไม้), ดาวเทียนฉิน (ทิศกลาง – ธาตุดิน), ดาวเทียนซิน (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ธาตุทอง), ดาวเทียนจู้ (ทิศตะวันตก – ธาตุทอง), ดาวเทียนเหริน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ธาตุดิน), ดาวเทียนยิง (ทิศใต้-ธาตุไฟ)
ส่วนสายมหายาน จะให้ความสำคัญกับพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ รวมเรียกว่า “นพราชา” คือ เก้าฮ๊วง (กิ้วฮ๊วง) พระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ทั้ง 2 พระองค์ ได้แก่
1.พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ, 2.พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ, 3.พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ, 4.พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ, 5. พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ, 6.พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ, 7. พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ 8.พระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์, 9.พระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์
“อุษัส” เทวียามเช้าสมัยพระเวท
อินเดียโบราณ สมัยพระเวท เรียกเทวีพระองค์นี้ว่า อุษัส หรือ “อุษาเทวี” เป็นบุคลาธิษฐานของธรรมชาติ เมื่อแสงเงินแสงทอง หรือสีชมพูอ่อนโยนมาเยือนฟากฟ้าในยามเช้า รูปของนางงดงามดั่งสาวแรกรุ่น สวยงาม อ่อนเยาว์ เป็นอมตะ เพราะเหตุที่นางได้เกิดใหม่จึงสวยและอ่อนเยาว์ทุกวัน มีรัศมีสดใส เปลือยอก นั่งราชรถสีทอง เทียมด้วยม้าและวัวสีแดง ถือคันธนูและลูกศร สู่ฟากฟ้าและเป็นเช่นนี้ทุกวัน แต่การมาเยือนโลกของนางในแต่ละวันกลับทำให้มนุษย์เราอายุมากขึ้น และชราในที่สุด ! นี่คือ สัจธรรมที่ไม่อาจเลี่ยงได้ เทวีพระองค์นี้ มีคุณสมบัติในการกำจัดความมืดมิด และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง แสงสว่างในยามเช้าได้ปลุกผู้คนให้ตื่นจากความหลับใหล เพื่อดำเนินชีวิตในแต่ละวัน นางมีน้องสาวคนหนึ่งชื่อ ราตรีกาล (นิทราเทวี) ทำหน้าที่คนละเวลากับนาง
ทางทิเบตจะกล่าวมนตร์บูชาท่านทุกเช้าเมื่อเห็นแสงสว่างปรากฏบนท้องฟ้า ! อินเดียโบราณก็เช่นกัน
ความลึกซึ้งของชาวอารยัน สมัยพระเวท จัดแบ่งธรรมชาติยามเช้า ออกเป็น 3 ช่วง และบูชาเทพถึง 3 พระองค์ เมื่อแสงสีขาวเริ่มจับท้องฟ้า “พระอัศวิน” เทวดาแฝดคู่ที่มีรูปร่างงดงาม จะนั่งรถเทียมด้วยม้าหรือนก บรรทุกน้ำผึ้งมาเยือนท้องฟ้า ชาวอารยันถือว่าเป็นเทพเจ้าผู้นำโภคทรัพย์มาสู่มนุษย์ น้ำผึ้งเป็นยารักษาโรคชั้นดี พระอัศวินล่วงหน้าก่อน เมื่อแสงเงิน แสงทอง เริ่มจับท้องฟ้า “อุษัส” เทวีรุ่งอรุณ ก็จะปรากฏตัว และตามด้วย “พระอรุณ” เมื่ออาทิตย์ขึ้น แสงแห่งความอบอุ่นเริ่มมาเยือนโลก!
และนี่คือ เรื่องราวของบุคลาธิษฐานในเทศกาลกินเจ ! เปรียบเทียบให้เห็นกับเรื่องราวต่างสายพันธุ์ทางศาสนา ได้เวลาปักหมุด “ธงเหลือง” แล้วพวกเรา !
เรื่อง : Nai Mu
#TicyCity #ตีซี้ซิตี้ #เมือง #City #GodsCity #Naimu #กรุงเทพ #สายมู # เรื่องเล่า #กินเจ #เทศกาลกินเจ #ตุลาคม #ศาลเจ้า #โรงเจ #เต๋าบ๊อ #มารีจิโพธิสัตว์ #เทวี #ประธาน
Leave feedback about this