วันเพ็ญเดือน12
ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหากนับตามจันทรคติไทยก็ตรงกับเดือน 12 และนั้นทำให้ Ticy City นึกถึงเพลงที่ได้ยิน ได้ฟัง มาตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ “วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง”
แม้ว่าเรื่องราวของประเพณีลอยกระทงจะมีมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล แต่สิ่งที่ทุกคนจดจำและเป็นนางเอกของเทศกาลนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของนางนพมาศและกระทงที่สวยงามในรูปแบบต่างๆ นั้นเอง จนกลายเป็นธรรมเนียมที่เมื่อถึงเทศกาลนี้ก็จะมีการประกวดนางนพมาศและประกวดกระทงกัน และหนังสือ “ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์” ต้นเรื่องนางนพมาศเป็นหนังสือในที่แต่งขึ้นในราวรัชกาลที่ 2-3 ของกรุงรัตนโกสินทร์
แต่เคยสงสัยกันบางหรือเปล่าว่าทุกครั้งที่ยกกระทงขึ้นอธิฐานถือเป็นการขอขมาและขอพรจากพระแม่คงคานั้นถูกต้องหรือไม่ .. อย่าเพิ่งตกใจที่ Ticy City ถามคำถามนี้ขึ้นมา เพราะเนื้อหาใน God’s City ครั้งนี้ Nai Mu กรูรูสายมูโดยแท้เขามีเรื่องเล่าขานพร้อมคำเฉลยว่าควร ไหว้เทพองค์ไหนดี ในคืนวัน “ลอยกระทง” วันเพ็ญเดือน 12 นี้ ว่าแล้วตามไปอ่านเรื่องราวจาก Nai Mu กันได้เลย
วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 วันลอยกระทง
อีกไม่กี่วัน จะถึงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามประเพณีคือ วันลอยกระทง นิยมอ้างกันว่า เพื่อขอขมาลาโทษแม่พระคงคา ‘คิดดีแต่ทำไม่ถูก’ ทิ้งขยะลงแม่น้ำในคืนเดียวเป็นจำนวนมาก และมากขึ้นทุกปี ประเพณีนี้จะต้องเปลี่ยนมุมมองสร้างทัศนคติใหม่ เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปีนี้ กรุงเทพมหานคร ประกาศงดใช้ขนมปังแล้ว
คติบูชาคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของคนมีอายุ มีความเชื่อมากมาย แตกต่างกัน บ้างก็ว่า บูชาพระนารายณ์ ซึ่งบรรทมสินธุ์ในมหาสมุทร , บางก็ว่า บูชาพระแม่คงคา , บางก็ว่า บูชาพระอุปคุต ที่ทำสมาธิในสะดือทะเล จนถึงการบูชาพระพุทธบาทริมแม่น้ำนรรมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธองค์ไปแสดงธรรมโปรดนาคพิภพ , บางก็ว่า บูชาพระเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ และบางก็ว่า บูชาท้าวพกาพรหม ที่พรหมโลก ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนแค่ตั้งจิตอธิษฐานบูชาก็ถึงสิ่งนั้น
แต่ที่สัมผัสได้ ประพณีนี้คือวันสนุกสนานของคนวัยหนุ่มสาว
สำหรับ Nai Mu ขอยกเทพ 3 องค์คือ พระนารายณ์ , พระแม่คงคา และพระอุปคุต มาให้รู้จักกัน !
พระนารายณ์หรือ วิษณุเทพ
เทวดาเก่าแก่ในยุคพระเวท เป็นหนึ่งในกำลังของแสงอาทิตย์ อีกชื่อหนึ่งที่เราคุ้นเคยคือ “พระนารายณ์” หมายถึง ผู้เคลื่อนไหวในน้ำ สถานที่ประทับของพระองค์คือ วิมานไวกูณฐ์ ลักษณะเป็นแผ่นทอง ตรงกลางเป็นวิมานแก้ว อยู่กลางเกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม) ทรงประทับบนพญาอนันตนาคราช โดยท่านจะประทับร่วมกับชายาคือ พระลักษมี (ของวิเศษ อันดับที่ 10 จากการกวนเกษียรสมุทร)
พระนารายณ์ เป็น 1 ใน3 ของเทพเจ้าตรีมูรติ มีหน้าที่บริหารโลก ทรงผลัดเปลี่ยนสีผิวกายมาแล้ว ถึง 3 ครั้ง ยุคแรก ความดีของมนุษย์เต็มร้อย ผิวสีขาว, ยุคสอง ความดีเสื่อมลง 1 ใน 4 ผิวกายเป็นสีแดง, ยุคสาม ความดีเสื่อมลง 2 ใน 4 ผิวสีเหลือง และปัจจุบัน ทรงมีผิวสีดอกอัญชัน เพราะความดีของมนุษย์ในโลกเสื่อมลง 3 ใน 4 แล้ว ทรงอาวุธใน 4 พระกร คือ คทาเกาโมทา , จักรสุทรรศน์ , สังข์ปาญจะชันยะ และดอกบัว ดอกไม้สัญลักษณ์ที่หมายถึงโลก และมีครุฑ เป็นพาหนะ
พระนารายณ์ได้อวตารมาหลายครั้งในยุคต่างๆของโลก เรียก “นารายณ์ 10 ปาง” แยกย่อยอีก เป็นนารายณ์ 24 ปาง พระองค์จะทำโยคะนิทรา (หลับในสมาธิ) ที่เกษียรสมุทร โดยมี พระลักษมีปรนนิบัติพัดวีอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา กว่าพระองค์จะตื่นจากโยคะนิทราก็เมื่อโลกเกิดวิกฤตครั้งหนึ่ง และพระองค์ต้องอวตารไปปราบความชั่วร้าย การอวตารของพระองค์เหลือครั้งสุดท้ายอีกเพียง 1 ปางคือ กัลกยาวตาร เป็นพระกัลลิ บุรุษขี่ม้าขาวเพื่อกู้โลกอีกครั้ง ความเชื่อนี้ ทำให้มนุษย์มีความหวัง คล้ายๆกับ พระศรีอาริยเมตไตรย ในพุทธศาสนา หรือ วันพิพากษาของพระเจ้าในศาสนาคริสต์
พระคงคา (Ganga)
พระแม่คงคา เป็นบุคลาธิษฐานของแม่น้ำคงคา ต้นน้ำเกิดจากการละลายของหิมะทางด้านตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย มีความยาวถึง 2,525 กิโลเมตร วก เลี้ยว และลัดเลาะผ่านเมืองสำคัญมากมาย ก่อนสู่มหาสมุทรที่อ่าวเบงกอล แม่น้ำสายนี้หล่อเลี้ยงคนนับล้าน มีเรื่องราวความเชื่อมากมายทั้งด้านพิธีกรรมและศาสนา ในเทวตำนาน เทวีพระคงคาเป็นพี่สาวของนางอุมา ปารวตี ลูกสาวของท้าวหิมวัต
การอัญเชิญคงคาสวรรค์สู่โลก เนื่องจากท้าวสัคร กษัตริย์อโยธยาไปมีเรื่องกับกบิลฤษี ซึ่งเป็นอวตารของพระวิษณุ จึงถูกสังหารพร้อมลูกอีก 6 หมื่นคน แม้สิ้นชีวิตแล้วก็ไม่อาจหลุดพ้นจากบ่วงกรรม จะต้องใช้น้ำจากคงคามารดเถ้ากระดูกจึงจะหลุดพ้น ลูกหลานที่สืบต่อมาต่างพยายามบำเพ็ญตบะบูชาพระพรหมคนแล้วคนเล่า เพื่อขอให้พระองค์ทรงช่วยเชิญพระแม่คงคาลงจากสวรรค์ จนผ่านมาถึงยุคของ พระภคีรถ รุ่นที่ 4 พระพรหมประทานพรให้ตามที่ร้องขอ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ คงคาเป็นสายน้ำที่แรงพุ่งรุนแรงมาก หากไหลมาเองจะต้องเกิดน้ำท่วมโลกแน่ พระศิวะจึงต้องให้เทวีคงคาไปสถิตที่มุ่นมวยผมของพระองค์ แล้วปล่อยน้ำให้ไหลวน ก่อนจะไหลเป็นแม่น้ำสายต่างๆ ถึง 7 สายสู่โลกมนุษย์ ดังนี้จึงเชื่อกันว่า คงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถชำระวิญญาณผู้ตายให้บริสุทธิ์และหลุดพ้นได้ จึงไม่แปลกที่พิธีกรรมสุดท้ายของคนอินเดีย จะนิยมเผาและลอยศพ โปรยเถ้ากระดูกลงสู่แม่น้ำ ทั้งยังเป็นน้ำที่ใช้ในอุปโภค บริโภค และอีกสารพัดในชีวิตประจำวัน วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วพบว่า แม่น้ำคงคามีปริมาณออกซิเจนในน้ำสูง และมีจุลินทรีย์ที่ฆ่าโรคต่างๆ และสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ !
พระอุปคุต
คำบูชา พระอุปคุตตะเถระ
“อัชชะ มะยัง อุปะคุตตะเถรัง ขะมามะฯ อิมินา ปุญญะ กัมเมนะ อุปะคุตตะ เถรัสสะ ปูเชมะฯ สัพพะ อันตะรายา วินัสสันตุ สัพพะสุขัญจะ สัพพะลาภัญจะ สัพพะกิจจัญจะ ภะวันตุ เมฯ – ในวันนี้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอขมาพระอุปคุตเถระ ด้วยการกระทำเป็นบุญนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายบูชาแก่พระอุปคุตเถระฯ อันตรายทั้งหมดจงฉิบหายไปฯ ความสุขทั้งปวง ลาภทั้งปวง การงานทั้งหมดจงมีแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ”
เมื่อแรก พระอุปคุต มี 2 ปางเท่านั้น คือ พระอุปคุตฉกบาตร (ความจริงคือ กำลังฉันอาหาร) และพระบัวเข็ม ปางหนึ่งของท่าน รูปสลักของท่านจะมีใบบัวปรกเศียร นั่งสมาธิ มีสัตว์น้ำ เช่น ปลา ปู กุ้ง หอย แหวกว่ายอยู่ ซึ่งมาจากความเชื่อว่า พระอุปคุตจำศีลอยู่ที่สะดือทะเล คนอินเดีย มอญ และล้านนาให้ความเคารพนับถือมาก เชื่อกันว่า ท่านจะขึ้นจากสะดือทะเล แปลงร่างเป็นเป็นสามเณร ขึ้นมารับบาตรในคืนเพ็ญปุ๊ด (คืนเพ็ญ วันพุธ) ซึ่งบางปี มี 1 หรือ 2 ครั้ง หรือ บางปี ไม่มีเลย การใส่บาตรเที่ยงคืนนิยมใส่เป็นข้าวสาร อาหารแห้ง และดอกไม้ เชื่อกันว่า ใครได้ใส่บาตรกับท่านจะพลิกชีวิต จนแค่ไหนก็จะร่ำรวยทันตาเห็น
ตำนานกล่าวไว้ว่า ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช จะทำการสังคยนาพุทธศาสนาครั้งที่ 3 ได้เชิญพระอุปคุตมาช่วยคุ้มครองงานให้ผ่านพ้นด้วยดี งานดังกล่าว ท้าวปรนิมมิตวสวัตดี พญามารผู้เคยมาก่อกวนพระพุทธเจ้าจะมาล่มงานนี้ พระอุปคุตจึงเสกหนังหมาเน่าแขวนคอพญามาร สร้างความอับอาย พญามารทนกลิ่นเหม็นเน่าไม่ไหวจึงยอมแพ้ มีข้อตกลงกันว่า พระอุปคุตต้องการเห็นพุทธลักษณะของสมณโคดมพุทธเจ้า ซึ่งพญามารเป็นผู้เดียวที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อพญามารแปลงกาย พระเจ้าอโศก ได้ให้ช่างวาด เพื่อเป็นพิมพ์ในการหล่อพระพุทธรูปต่อไป
และนี่คือ ส่วนหนึ่งเทพ-เทวีที่เล่าอ้างและบูชาในคืนเพ็ญเดือนสิบสอง
เรื่อง : โดย Nai Mu
Leave feedback about this