พระยืน
ก่อนจะเริ่มเรื่องราวต่างๆ ในส่วนของ God’s City โดย Nai Mu ทีมงานและนักเขียนจาก Ticy City ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ 2568 คุณผู้อ่านอย่างเป็นทางการ และวันนี้ (วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ.2568) นับเป็นวันจันทร์แรกของปีมีหรือที่ Nai Mu จะพลาดนำเรื่องดีๆ มาสู่คุณผู้อ่าน
โดย Nai Mu กรูรูสายมูผู้มีเรื่องเล่ามากมายขอเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการตั้งใจชวนคุณๆ ผู้อ่านมาไหว้ “พระยืน” องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เพื่อขอพรให้ตัวเองและครอบครัว “ยืนหนึ่งโดดเด่น” ท้าทายอธรรมทุกสิ่งอย่างที่จะเข้ามาในชีวิต เพราะ รู้กันอยู่ว่า ปีนี้ ไม่แน่จริง คงรอดยาก !
เมื่อจะเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์ต้องรู้จักยืนตั้งหลักและเดินไปข้างหน้าอย่างองอาจ
พระยืน วัดหลวงพ่อโต บางขุนพรหม
วัดอินทรวิหาร ชาวบ้านเรียก “วัดหลวงพ่อโต บางขุนพรหม” พระยืนองค์นี้มีนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า) ซึ่งสูงโดดเด่นสง่างาม เป็นพระพุทธรูปประจำวันพุธ ปางอุ้มบาตร โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้เริ่มสร้างในปลายรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2410 แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ เพราะล่วงเข้าสู่แผ่นดินรัชกาลที่ 5 ท่านได้มรณภาพลง ขณะนั้นการก่อสร้างถึงแค่บริเวณพระนาภี และงานสร้างก็ได้หยุดชะงักลงไประยะหนึ่ง ต่อมาลูกศิษย์คู่บารมีของท่านคือ หลวงปู่ภู จันทเกสโร มารับหน้าที่สานต่อจนเสร็จ ในปี 2467 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีงานสมโภชครั้งแรกในปี พ.ศ. 2471 เดือนมีนาคม และในปี 2523 ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่รัฐบาลศรีลังกามอบให้ไว้ที่ยอดเกศ
ทั้งนี้ท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ นิยมสร้างพระพุทธรูปที่มีลักษณะใหญ่โต ไว้ตามวัดต่างๆ หลายแห่ง อาทิ
พระนอน (พระพุทธไสยาสน์) วัดสะตือ จังหวัดอยุธยา (ยาว 52 เมตร, กว้าง 9 เมตร, สูง 16 เมตร) เหตุที่ท่านสร้างพระนอนเพราะท่านเกิดที่นั่น !
วัดเกษไชโย (วัดไชโยวรวิหาร) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ในพระวิหาร (กว้าง 16.10 เมตร, สูง 22.65 เมตร) ด้วยว่า ท่านฝึกนั่งสมาธิที่นั่น
พระศรีอาริยเมตไตรย พระยืน วัดอินทรวิหาร ความสูง 32 เมตร ความหมายว่า ท่านหัดยืนที่นั่น !
วัดหลวงพ่อโต บางขุนพรหม เป็นวัดเก่าสร้างมาก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ ชื่อเดิมคือ วัดไร่พริก เพราะบริเวณนี้เป็นสวนผักของชาวจีน ต่อมาเรียกเพื่อให้เกียรติแก่ “เจ้าอินทวงศ์” ชาวบ้านเรียก “เจ้าอินทร์” (น้าของเจ้านางเขียวค้อม พระสนมในรัชกาลที่ 1 ) ที่มีส่วนในการบูรณะวัดครั้งใหญ่ในสมัยนั้น จึงเรียก “วัดอินทร์” ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามวัดว่า วัดอินทรวิหาร เพื่อไม่ให้สับสนกับชื่อ วัดอินทาราม ตลาดพลู
พระพุทธรูปประทับยืนองค์นี้ เป็นที่นับถือของประชาชนทั่วทุกสารทิศ ผู้คนมาวัดไม่เคยขาดทั้งวันธรรมดาและวันหยุด โดยเฉพาะงานประจำปี คือ ทุกวันที่ 1-10 มีนาคมของทุกปี จะมีงานสมโภชและจะเปลี่ยนจีวรของหลวงพ่อโตองค์นี้
สมเด็จองค์ปฐมเปิดโลก บันดาลทรัพย์ วัดบางชัน
สำหรับผู้มีรถส่วนตัว แนะนำ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (รามอินทรา 109) วัดนี้เดิมชื่อ วัดบางชัน สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2435 ย้ำ “เป็นวัดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง” มีรูปเคารพ “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่โดดเด่น หลากหลาย และจำนวนมากที่สุดในกรุงเทพฯ ผู้คนนิยมไปบูชากันมากยิ่งคืนวันก่อนหวยออก แน่น และ จุก ! เต็มทุกตารางนิ้ว
สมเด็จองค์ปฐมเปิดโลกพระองค์นี้ มีความสูง 9.95 เมตร มีชื่อทางการว่า “พระพุทธรัตนมงคลนิมิตโลกธาตุราษฎร์ศรัทธา” ซึ่งประดิษฐานในวัดแห่งนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนิยมสร้างตามวัดต่างๆ ซึ่งก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป
พระพุทธเจ้าองค์ปฐม เป็นแนวความเชื่อของพุทธฝ่ายมหายานว่า เหล่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย อวตารจากพระพุทธเจ้าองค์ปฐม มีนามว่า พระไวโรจนพุทธเจ้า
พระสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีแนวความความเชื่อเรื่อง พระพุทธเจ้าองค์ปฐม เช่น พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง เคยกล่าวไว้ในหนังสือว่า พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก มีพระนามว่า สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ 1 , หลวงปู่ขันตยาภรณ์ (สุสานไตรลักษณ์ เชียงใหม่) และ หลวงพ่อปาน (วัดบางนมโค อยุธยา) ซึ่งพระพุทธรัตนมงคลนิมิตโลกธาตุราษฎร์ศรัทธา องค์นี้ คงจะได้แรงบันดาลใจจากแนวความคิดนี้
โดยพระพุทธรัตนมงคลนิมิตโลกธาตุราษฎร์ศรัทธา จะทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการต้อนรับทุกท่านที่เข้ามายังวัดแห่งนี้
พระพุทธรูปบามิยัน (องค์จำลอง) วัดสระเกศ
พระพุทธรูปแกะสลักฝาผนังบามิยันซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในUNESCO World Heritage Siteในหมวดของมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปี ค.ศ.2003 ในชื่อว่า “Cultural Landscape and Archaeological Remains of the Bamiyan Valley”
หลายพันปีก่อน พระเถระ และราชวงศ์คุปตะ ได้สร้างภาพสลักพระพุทธรูปนี้ไว้ในบริเวณที่เป็นเส้นทางแลกเปลี่ยนสินค้าบนเส้นทางสายไหม ซึ่งพระพุทธรูปบนผนังมีทั้งขนาดใหญ่-เล็ก เป็นจำนวนมาก โดยผสมผสานด้วยศิลปะคุปตะ,คันธาระและเปอร์เซีย พระภิกษุเสวียนจั้ง (พระถังซัมจั๋ง – บุคคลในประวัติศาสตร์) ได้บันทึกถึงแคว้นบามิยันว่า มีอารามหลายสิบแห่ง มีพระภิกษุนับพัน ส่วนใหญ่ศึกษานิกาย “หินยานฝ่ายโลกุตรวาท” … “เนินเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง (ของพามิยาน) มีพระพุทธรูปจำหลักด้วยศิลา สูง 140-150 เฉียะ สีทองอร่ามประดับด้วยอัญมณีมีค่า ด้านตะวันออกขององค์พระพุทธรูปมีอารามแห่งหนึ่งซึ่งอดีตพระราชาของแคว้นทรงสร้างขึ้น”
พระพุทธรูปที่โดดเด่นและได้รับการกล่าวถึงมาทุกยุค คือ พระพุทธรูปยืน 3 พระองค์ 2 องค์แรก ความสูง 38 เมตร องค์ที่ 3 สูง 55เมตร ทั้งหมด ถูกทำลายโดยกลุ่มตาลีบัน อัฟกานิสถาน เมื่อวันทื่ 9 มีนาคม 2001
ปัจจุบันนี้ … วัดสระเกศราชวรวิหาร มีพิพิธภัณฑ์ถ้ำบามิยัน ที่ได้สร้าง พระพุทธรูปบามิยัน (องค์จำลอง) ไว้ที่นี่ และยังมีคัมภีร์มรดกที่สำคัญของโลกซึ่งประเมินค่ามิได้ โดยรัฐบาลนอร์เวย์ได้มอบจารึกโบราณที่จารึกบนเปลือกไม้ทั้ง 3 ชิ้นที่เหลือจากการทำลายให้แก่ทางวัดสระเกศของประเทศไทย ซึ่งทางวัดได้นำมาโชว์ในถ้ำแห่งนี้ด้วย
ยืนหนึ่งของเจ้าชายสิทธัตถะ
ไหนๆ มาวัดสระเกศแล้ว ต้องถือโอกาสมาชมหรือสักการะ “เจ้าชายน้อยยืน มือขวาชี้ฟ้า มือซ้ายชี้ดิน” สีทองอร่าม กลางแจ้ง พระประติมารูปนี้มักพบในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน สำหรับประเทศไทยพบโบราณวัตถุในลักษณะนี้ เพียง 2 องค์คือ องค์แรกรูปร่างอ้วนท้วมพบที่จังหวัดสุโขทัย อีกองค์หนึ่งรูปร่างผอมพบที่จังหวัดลำพูน อธิบายตามรูปลักษณ์ว่า “เราคือ มหาบุรุษ และนี่จะเป็นพระชาติสุดท้ายของเราแล้ว” , ฝ่ายมหายานตีความว่า “เราทรงไว้ซึ่งฟ้าแลดิน” ! หลังๆ จะพบเจ้าชายน้อยในรูปลักษณะใกล้เคียงกันตามวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง เพราะนิยมสร้างตามๆกันมา
วัยเด็กเริ่มหัดยืน ก่อนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และก้าวเดินไปด้วยความสุขุม รอบคอบ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคทั้งปวงที่เข้ามาในชีวิต ขอทุกท่านสมบูรณ์ด้วยจตุรพิธพรชัยในปีใหม่นี้ทุกประการ !
เรื่อง : Nai Mu
Leave feedback about this