ฉีดวัคซีนเสริมภูมิ
ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เป็นช่วงฮิตติเทรนด์ของโรค ‘ไข้หวัดใหญ่’ ซึ่งมีอาการที่คล้ายไข้หวัดแต่รุนแรงกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ และในปีนี้มีการแพร่ระบาดค่อนข้างสูงโดยกรมควบคุมโรคได้เปิดเผยว่าปี 2566 มีคนไทยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่กว่า 200,000 ราย
โดยโรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากการที่ร่างกายได้รับไวรัสที่ชื่อว่า “อินฟลูเอนซา” (influenza) ซึ่งมีสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์อยู่ 4 สายพันธุ์ โดยโรคสามารถติดต่อด้วยการสัมผัสสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เช่น การรับประทานอาหารร่วมกับผู้ป่วยโดยไม่ใช้ช้อนกลาง และการพูดคุยใกล้ชิดกับผู้ป่วย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการที่คล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก แต่จะมีอาการรุนแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ มีไข้สูง หนาวสั่น ไอหนักจนนอนไม่ได้ ปวดหัวมาก ปวดตัว น้ำมูกเยอะแน่นจมูก บางรายอาจมีอาการหายใจติดขัด หอบเหนื่อย และแน่นหน้าอก ร่วมด้วย ซึ่งความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่นั้นจะแตกต่างกันไป บางรายอาจมีอาการรุนแรงมากหรือมีอาการแทรกซ้อน เช่น โรคปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และโรคสมองอักเสบ ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงคือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่การป้องกันการรับเชื้อ เพราะทุกคนสามารถรับเชื้อไวรัสได้ตลอดเวลา แต่การฉีดวัคซีนช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับไวรัสและการกลายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง หรือในบางคนอาจจะไม่มีการแสดงอาการใด ๆ
และวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่น ๆ ได้ โดยต้องฉีดคนละตำแหน่ง และควรฉีดห่างจากวัคซีนอื่น ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ง่ายต่อการวินิจฉัยในกรณีที่มีการแพ้วัคซีน ซึ่งกลุ่มที่ไม่ควรควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ผู้ที่แพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่รุนแรง ผู้มีอาการปลอกประสาทอักเสบหลังจากได้รับวัคซีน และผู้ที่แพ้ไข่รุนแรง ซึ่งผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาหลายปีสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้โดยไม่ต้องฉีดหลายเข็ม
แต่สำหรับเด็กนั้น มีข้อแนะนำจากแพทย์ว่า สามารถพาไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุเด็ก 6 เดือน โดยควรฉีดเป็นประจำทุกปี เพราะแต่ละปี วัคซีนจะมีการพัฒนาตามการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่อยู่เสมอ ส่วนในเด็กอายุน้อยกว่า 9 ปี กรณีเริ่มให้วัคซีนเป็นปีแรก จะต้องฉีด 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เข็มห่างกัน 1 เดือน ขึ้นไป เพราะเด็ก ๆ ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะจะมีไข้สูงถึง 39 – 40 องศาเซลเซียสติดต่อกัน 3 – 4 วัน และอาจมีอาการหนาวสั่นสะท้านร่วมด้วย บ้างมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ซึ่งต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
ขอบคุณ : ข้อมูลโรงพยาบาลวิมุต
ภาพ Freepik.com
#TicyCity #ตีซี้ชิตี้ #MeaningofCity #เพราะทุกที่คือเมือง #เมือง #Ticytrend #Ticyhealth #Everythingabouthealth #healthy #ไข้หวัดใหญ่ #ภัยร้าย #วัคซีน #ป้องกัน #ไวรัส