ปลุกความสดชื่น คืนพลังให้ชีวิต ดั่งมอสที่ปกคลุมผืนป่า
กลิ่นหอมที่ยั่งยืน
Ticy City มาชวนไปสัมผัสกลิ่นหอมจากดีวานา (divana) ผู้นำด้านสปาสุขภาพความงามและผลิตภัณฑ์เครื่องหอมแบรนด์ไทยที่โด่งดังและเป็นที่ยอมรับในตลาดระดับสากล อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงความเป็นโมเดลธุรกิจยั่งยืน ด้วยการเปิดตัว Phenomenon Collection กลิ่นแรก “Revital Moss Garden” ปลุกความสดชื่น คืนพลังให้ชีวิต ดั่งมอสที่ปกคลุมผืนป่า
โดยหลังจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ประเทศไทยและประเทศสมาชิกสหประชาชาติรวม193 ประเทศ ได้ร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 (2030 Agenda for Sustainable Development) ซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาของโลกเพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายในปี ค.ศ. 2030ซึ่งกำหนดให้มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นแนวทางให้แต่ละประเทศดำเนินการร่วมกัน
ซึ่งทาง ‘ดีวานา’ (divana) ในฐานะผู้นำด้านสปาสุขภาพความงามและผลิตภัณฑ์เครื่องหอมในตลาดระดับสากล ซึ่งเชื่อในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และมุ่งมั่นก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน ด้วยคอนเซ็ปต์ “divana foster longevity: to make humans live longer, healthier, and happier” โดยไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้คุณค่ากับความยั่งยืน ด้วยการคัดสรรพลังมหัศจรรย์จากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังพร้อมนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย และล่าสุดได้เปิดตัว “Revital Moss Garden” กลิ่นแรกที่ หนึ่งในคอลเลกชั่น Phenomenon Collection – The Mavelous Nature ที่จะนำพาไปสัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้ง 8 ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของมนุษย์ด้วยพลังมหัศจรรย์จากธรรมชาติ โดยมีผู้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ คุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), คุณปวริศา เพ็ญชาติ, คุณขวัญข้าว เศวตวิมล, คุณณิชชา บุณยากร, ดร.ภาดาภัสสรณ์ ภาดาพิลาสธานันทร์ และ คุณประภาพรรณ ธีระพันธุ์ เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังให้ทุกท่านได้สัมผัส “กิจกรรมอาบป่า” ซึ่งเป็นศาสตร์การบำบัดสุขภาพที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น อีกด้วย
ทั้งนี้จุดเด่นของ Revital Moss Garden คือความมหัศจรรย์ของกลิ่นหอมที่สกัดจากธรรมชาติด้วยส่วนผสมของหญ้ามอสสีเขียว เปลือกยูคาลิปตัส และก้านดอกลาเวนเดอร์ ที่ชวนให้รู้สึกได้ถึงความสงบและสดชื่น ช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณให้กลับมามีชีวิตชีวา เหมือนดั่งผืนมอสที่ปกคลุม และสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าได้อย่างมหัศจรรย์
ธเนศ จิระเสวกดิลก ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท ดีวานา โกลบอล จำกัด กล่าวว่า “ดีวานามุ่งมั่นในการทรานส์ฟอร์มแบรนด์สู่ความเป็น SUSTAINABLE LUXURY หรือการสร้างคุณค่าแห่งความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอผ่าน 3 คุณค่าหลักของ ดีวานา ได้แก่ สุขภาพ (Wellness) ธรรมชาติ (Natural) และ การบริการ (Hospitality) โดยนิยามความยั่งยืนที่สร้างคุณค่าของดีวานา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำเสนอประสบการณ์ผ่านคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ และงานบริการเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงวิธีคิดที่เคารพในตัวตน ให้เกียรติคนรอบข้าง รวมถึงการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย พร้อมกับนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ เพื่อตอบโจทย์ต่อการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการหมุนเวียน กระตุ้นให้เกิดการลด (Reduce), การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) รวมถึงการเพิ่มมูลค่าให้วัสดุก่อนจะกลายเป็นขยะ (Upcycling)”
“ภารกิจของดีวานาจากนี้ นอกจากการใช้วัตถุดิบ plant-based ที่ปลอดภัยและมากคุณค่า ยังรวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก โดยทางดีวานาตั้งใจว่าภายในปี 2030 ดีวานาจะปรับใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2035 นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางปฏิบัติ (Code of Conduct) เพื่อให้มั่นใจว่าตลอดทั้ง Supply Chain ของดีวานา มีเป้าหมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และตอนนี้ก็ได้เริ่มดำเนินโครงการรับคืนบรรจุภัณฑ์ของดีวานา เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานรับรีไซเคิล โดยลูกค้าดีวานาสามารถเลือกส่งช่องทางการส่งคืนได้ ไม่ว่าจะส่งผ่านทางดีวานาหรือส่งให้กับทางโรงงานได้เลยโดยตรงครับ”
นอกจากนี้ดีวานายังพร้อมจะสร้างแนวทางที่ยั่งยืนโดยมุ่งเน้น ESG ด้วยยุทธศาสตร์ 4 ลด 4 เพิ่ม ซึ่งได้แก่ ลดการใช้ไฟฟ้า,ลดการใช้น้ำ,ลดการสร้างขยะ และลดการปล่อยคาร์บอน ควบคู่ไปกับหลัก 4 เพิ่ม ได้แก่ เพิ่มแนวคิดและวัสดุที่เน้นเรื่องความยั่งยืน, เพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน, เพิ่มการมีส่วนร่วมกับชุมชุนและเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
ด้านพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท ดีวานา โกลบอล จำกัด เสริมว่า “ด้วยพันธกิจของแบรนด์ที่ชัดเจนนี้เอง ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผ่านพลังของธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของ Phenomenon Collection: The Marvelous Nature ซึ่งเป็นคอลเล็กชันกลิ่นหอม 8 กลิ่นพิเศษจาก 8 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์และให้ความรู้สึกที่แตกต่าง อาทิ North Star Guidiance เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ความรู้สึกสงบนิ่ง และอบอุ่นใจ, Awaken Sunrise ให้ความรู้สึกรีเฟรช ฟื้นฟูพลัง ลดความเหนื่อยล้า, Full Moon Wisdomให้ความรู้สึกโรแมนติก หลงใหล น่าจดจำ, Miracle Snowdrop ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เสริมสร้างจินตนาการ, Rainbow Dream ให้ความรู้สึกถึงการเปล่งประกายของความหวังและความฝัน, Aurora Symphony ให้ความรู้สึกลึกลับ ทรงคุณค่าและทรงพลัง, กลิ่น Serene Glacier ให้ความรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวา และล่าสุดกลิ่น Revital Moss Garden ให้ความรู้สึกถึงการฟื้นฟูร่างกาย เติมเต็มจิตวิญญาณ”
“โดยที่ทั้ง 8 ปรากฏการณ์ที่ดีวานาเลือกมา มีทั้งรูปแบบที่สามารถพบเจอและสัมผัสได้ในทุกๆวัน หรือบางปรากฏการณ์จะเกิดเฉพาะบางพื้นที่ และบางเวลาเท่านั้น แต่ทุกๆ ปรากฏการณ์สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้ได้ค้นพบถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างแท้จริง อย่างเช่นกลิ่น Revital Moss Garden ที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจควบคู่ไปกับการเติมพลังชีวิตให้กับตัวเราได้ เพราะมอสคือจุดเร่ิมต้นของระบบนิเวศน์ที่มีอายุมากกว่า 450 ล้านปี เป็นเสมือนตัวแทนแห่งความชุ่มชื่นและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ต้นหญ้ามอสที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนป่าช่วยกักเก็บพลังชีวิตและจิตวิญญาณของป่าให้ยังคงความสมบูรณ์ เพียงแค่เราได้สัมผัสกับผืนมอส ก็สามารถช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตได้เป็นอย่างดี”
ภายในงานยังได้ 2 คนดังหัวใจสีเขียว นำโดย มารีญา พูนเลิศลาภ นักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม และผู้ก่อตั้งโครงการ SOS Earth ที่สร้างความเข้าใจให้แก่คนรุ่นใหม่ถึงป่าไม้และระบบนิเวศ และอเล็กซ์ เรนเดล ดารานักแสดงผู้สนใจสิ่งแวดล้อมและผู้ก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา ซึ่งสร้างความเข้าใจผ่านกิจกรรมแบบ Edutainment มาร่วมแชร์มุมมองและไอเดียในการทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
มารีญา พูนเลิศลาภ กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากที่ได้มาร่วมกับทางดีวานา แบรนด์เครื่องหอมที่พร้อมส่งต่อแนวคิดรักษ์โลกผ่านสินค้าและกระบวนการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะแนวคิดของแบรนด์ที่มองว่าธรรมชาติคือยารักษาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนำสารสกัดจากธรรมชาติมาใช้ หรือ การนำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมาส่งต่อพลังงานดีๆ เพราะแม้จะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่เชื่อว่าทุกคนสามารถสัมผัสรู้สึกได้ เหมือนกับมารีญาเอง เวลาที่รู้สึกไม่มีความสุข ก็มักจะไปใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกถึงอิสระอย่างบอกไม่ถูก ทำให้รู้สึกดีและเหมือนได้เยียวยาจิตใจ”
ขณะที่ อเล็กซ์ เรนเดล เสริมว่า “ดีใจที่เห็นเรื่องการรักษ์โลก ไม่ใช่แค่เทรนด์ ที่เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะ จริงๆ แล้วความยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของคนใดคนหนึ่งหรือคนที่พร้อม แต่เป็นภาระและความรับผิดชอบของทุกคน โดยแต่ละคนอาจจะมีวิธีทำให้โลกนี้ดีขึ้นหรือยั่งยืนขึ้นในแบบที่ต่างกัน แต่อย่างน้อยการที่เห็นทุกคนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะแบรนด์ต่างๆ ออกมาแสดงจุดยืน ผมมองว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ ในการสร้างแรงกระเพื่อมไปสู่สังคมและนำไปสู่การร่วมมือร่วมใจในการทำอะไรบางอย่างที่เป็นรูปธรรม”
นอกจากนี้ผู้ที่มาร่วมงานdivana Revital Moss Gardenยังได้สัมผัส “กิจกรรมอาบป่า” ซึ่งเป็นศาสตร์การบำบัดสุขภาพที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น นำโดย คุณณิชา ศิรินันท์ ผู้ก่อตั้ง Forestory และได้รับ ANFT Certified Forest Therapy Guide อีกด้วย
มาร่วมสัมผัสกลิ่นหอมของ “Moss Garden” ผ่านผลิตภัณฑ์ room diffuser, body oil และ hand cream จาก “ดีวานา” ได้แล้วที่เคาน์เตอร์ดีวานาทุกสาขา หรือที่ Facebook : divana และ Instagram : @divana_global
#TicyCity #ตีซี้ซิตี้ #เมือง #City #PM25 #กรุงเทพ #Sustainable #divana #RevitalMossGarden #SustainbleLuxury #phenomenon #secretsourceofforest
Leave feedback about this