5 คู่อาหารรับประทานดี มีประโยชน์

จับคู่อาหาร

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ Ticy City เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่าหยิน-หยาง หรือสนุนไพรเชิงเดียว -เชิงคู่ กันมาบ้างแล้ว นั่นยอมหลายถึงว่า ของทุกอย่างหากมาเป็นคู่ย่อมส่งดีในทางบวกมากกว่าลบ “อาหาร” ก็เช่นกัน

และ Ticy City ก็เชื่อว่า พอเอ่ยถึงเรื่องอาหาร หลายคนก็คงเคยสงสัยหรือมีคำถามว่า แล้วมีอาหารอะไรบ้างที่ควรหรือไม่ควรรับประทานคู่กัน 

ซึ่งในเรื่องนี้บางคนอาจเคยได้ยินมา โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักว่า ถ้างดรับประทานโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตพร้อมในมื้อเดียวกัน จะช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้ แต่ในกรณีนี้กลับปรากฎว่ามีการศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วได้หักล้างความเชื่อดังกล่าวโดยสิ้นเชิง

ทั้งนี้แนวคิดเกี่ยวกับการจับคู่อาหาร หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “food synergy” หรือ “food pairing”  ก็คือการรับประทานอาหารบางอย่างคู่กันแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ทางโภชนาการมากกว่าการรับประทานแยกกัน โดยในบทความนี้ ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาและการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ จะมาแบ่งปันลิสต์ 5 คู่อาหารที่รับประทานด้วยกันแล้วได้ประโยชน์คุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่าเดิม

แค่ลองจับคู่อาหาร เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น 

ผักหลากสีกินพร้อมไขมันเพียงเล็กน้อย  ผักและผลไม้หลายชนิดมีสารประกอบที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ ซึ่งสารนี้เป็นเม็ดสีธรรมชาติที่ทำให้อาหารอย่าง มะเขือเทศ แครอท และผักโขมมีสีสันสวยงาม โดยผักผลไม้เหล่านี้มีเม็ดสีเฉพาะของตัวเอง เรียกว่า ไลโคปีน, เบต้าแคโรทีน และลูทีน ตามลำดับ

แคโรทีนอยด์ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผักและผลไม้เป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ สารประกอบสำคัญเหล่านี้ละลายในไขมันได้ ซึ่งหมายความว่า ถ้ารับประทานผักพร้อมกับอาหารที่มีไขมันเล็กน้อย จะทำให้ร่างกายได้รับแคโรทีนอยด์มากขึ้น ดังนั้นการเติมไขมันที่ดีต่อสุขภาพจากอะโวคาโดหรือน้ำมันมะกอกลงในสลัด จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในผักกาด แครอท และมะเขือเทศได้ดี

วิตามินซีจากผักและธัญพืชที่มีธาตุเหล็ก  ธาตุเหล็กจำแนกตามโครงสร้างได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ธาตุเหล็กในรูปแบบ “ฮีม (Heme)” พบได้ในปลา เนื้อสัตว์ และสัตว์ปีก ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ง่ายกว่าธาตุเหล็กในรูปแบบอื่นที่เรียกว่า “Non-Heme” ที่พบในอาหารจากพืช

และเมื่อรับประทานวิตามินซีควบคู่ไปกับอาหารที่มีธาตุเหล็กรูปแบบฮีม ร่างกายจะดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น และใช้เวลาไม่นาน โดยปริมาณวิตามินซีในส้ม 1 ลูกหรือมะเขือเทศ 1 ลูกสามารถช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้นเกือบ 3 เท่า! ดังนั้นมะเขือเทศที่อยู่ในส้มตำจะเป็นตัวช่วยดูดซับธาตุเหล็กในถั่ว ส่วนสตรอเบอร์รี่จะช่วยให้ได้รับธาตุเหล็กในซีเรียลได้ดีขึ้น และธาตุเหล็กในผักโขมจะถูกดูดซึมได้ดีขึ้นถ้าลองใส่ส้มหรือเกรปฟรุตลงในสลัดแล้วรับประทานคู่กัน

มะนาวและชาเขียว  ไฟโตนิวเทรียนท์ในชาเขียวตามธรรมชาติ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์เรียกว่า “คาเทชิน” ทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายจากความเสียหายของการออกซิเดชัน และเมื่อเติมมะนาวลงไปในชาเขียว วิตามินซีจากมะนาวสามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ได้ ส่วนใครที่ไม่ชอบมะนาว ให้ลองใส่ผลไม้อื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีลงไปตอนชงชาแทน เช่น ผลเบอร์รี่ หรือส้มหั่นเป็นชิ้น ๆ

ปลาและผักใบเขียว เมื่อดื่มนมที่เสริมวิตามินดี วิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมในนมได้ดีขึ้น แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ดีในการจับคู่สารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ อย่างการรับประทานปลาและผัก โดยเฉพาะปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรลที่ให้วิตามินดี ส่วนผักใบเขียวที่ให้แคลเซียม เช่น ผักกาดเขียว ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ซึ่งถ้ารับประทานอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้คู่กันก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมจากผักดีขึ้น

มิกซ์ใหญ่จัดเต็มอาหารจากพืช อาหารจากพืชหมายรวมถึงทั้งผลไม้ ผัก และถั่ว ที่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุด โดยประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระจะเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับประทานรวมกัน มากกว่ารับประทานอย่างใดอย่างหนึ่งเดี่ยว ๆ เช่น การมิกซ์จับคู่ระหว่างส้ม แอปเปิ้ล องุ่น และบลูเบอร์รี่ จะมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าการรับประทานแยกชนิดในปริมาณที่เท่ากัน

และเพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่ Ticy City ให้ความใส่ใจ  เพื่อสุขภาพที่ดีมาเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ในด้านโภชนาการกันนะดีกว่า “รับประทานอาหารให้เป็นยา อย่ารับประทานยาให้เป็นอาหาร” 
#TicyCity#ตีซี้ชิตี้ #เมือง #City #Health #food #foodpairing #จับคู่อาหาร #สุขภาพ