สัญญาณอันตรายของโรคเสพติดการชอปปิง หรือ Shopaholic
สุขภาพจิต
เมื่อการชอปปิงเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็สามารถซื้อของที่ต้องการได้แล้ว
และจากความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นผนวกกับโปรโมชันที่ดึงดูดใจจากหลากหลายแอพ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เป็นคำตอบว่าทำไมปัจจุบันผู้คนจึงหันมาชอปปิงออนไลน์กันมากขึ้น และบางคนถึงขั้นเสพติดการชอปปิง ออนไลน์กันเลยทีเดียว
ซึ่งนั้นทำให้ Ticy City เกิดความสนใจและสงสัยว่าถ้าเกิดเสพติดการชอปปิงออนไลน์ขึ้นขึ้นหยุดไม่ได้นี่ จะอยู่ในข่ายของการป่วยด้วยหรือเปล่า จนในที่สุดก็ได้ไปพบบทความ เรื่อง หยุดชอปปิงไม่ได้ สัญญาณอันตรายของโรคเสพติดการชอปปิง ของแพทย์หญิงอริยาภรณ์ ตั้งชีวินศิริกูล จิตแพทย์ โรพยาบาลBMHH- Bangkok Mental Health Hospital ซึ่งน่าสนใจมากๆ เลยขอนำมาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน แล้วลองเช็คดูว่าแค่อยากซื้อของหรือว่าป่วยเป็นโรค Shopaholic กันแน่
ทำความรู้จักกับโรค “Shopaholic”
การชอปปิงในออนไลน์ หรือออฟไลน์ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของใครหลายคนแต่ถ้าชอปจนหยุดตัวเองไม่ได้ ซื้อของเกินความจำเป็น จนเกิดปัญหาหนี้สิน กระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเข้าข่ายเป็น Shopaholic หรือ โรคเสพติดการชอปปิงโดยไม่รู้ตัว
ทั้งนี้ แพทย์หญิงอริยาภรณ์ ตั้งชีวินศิริกูล จิตแพทย์ โรพยาบาลBMHH- Bangkok Mental Health Hospital ได้กล่าวว่า Shopaholic หรือ โรคเสพติดการชอปปิง เป็นโรคทางสุขภาพจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้จะเสพติดการซื้อของโดยที่ไม่คำนึงถึงสถานะทางการเงินของตัวเอง และมีความอยากจะไปชอปปิงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ปัญหาหนี้สิน ปัญหาความสัมพันธ์จนต้องทะเลาะกับคนในครอบครัว บางครั้งซื้อมาแล้วต้องโกหกคนในครอบครัวว่ามีคนให้มา หรือบอกราคาที่ถูกกว่าราคาจริงที่ซื้อ ซึ่งโรคนี้พบได้ตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไปทั้งเพศหญิงและเพศชาย
9 พฤติกรรมที่เข้าข่ายการเป็น Shopaholic
- อยากซื้อของตลอดเวลา
- ซื้อของเกินความจำเป็น
- ยับยั้งพฤติกรรมการชอปปิงของตัวเองไม่ได้
- มีความรู้สึกดีเมื่อได้ซื้อของ โดยจะรู้สึกดีได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ
- รู้สึกผิดหลังจากที่ซื้อมาแล้ว
- ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้
- ซื้อซ้ำๆ ทั้งที่มีอยู่แล้วหลายชิ้น
- ต้องหลบซ่อนหรือโกหกปกปิดเวลาซื้อของนั้นๆ
- มีปัญหาด้านอื่นๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น เกิดปัญหาหนี้สิน ปัญหาความสัมพันธ์ เป็นต้น
ปัจจัยของการเกิดโรค
โรคเสพติดการชอปปิง เกิดได้ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยทางสังคม ซึ่งสาเหตุที่มาจากปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ มีภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง มีปัญหาในการควบคุมตัวเองหรือยับยั้งชั่งใจ
ส่วนปัจจัยทางสังคม เช่น การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ รวมไปถึงการใช้บัตรเครดิตในการซื้อของไปก่อนโดยยังไม่ต้องใช้เงินสด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการเสพติดชอปปิงได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน
การรักษาและป้องกัน
โรคเสพติดการชอปปิง สามารถรักษาให้หายได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเปลี่ยนทัศนคติ เช่น การจำกัดวงเงินบัตรเครดิตหรืองดใช้บัตรเครดิต โดยส่วนใหญ่แล้วจิตแพทย์จะรักษาด้วยการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioural Therapy: CBT) ซึ่งจะเป็นการพูดคุยให้คำปรึกษา เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการมีพฤติกรรมโรคเสพติดการชอปปิง จากนั้นจึงทำการปรับเปลี่ยนความคิด ปรับพฤติกรรม เพื่อให้ผู้รับคำปรึกษาเข้าใจตัวเองและปรับเปลี่ยนนิสัยการเสพติดการชอปปิงได้ เช่น หากใช้การชอปปิงเป็นการระบายความเครียด ก็อาจจะหาวิธีระบายความเครียดวิธีอื่นๆ ที่ไม่ส่งผลเสียต่อตัวเอง หรือถ้ามีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ก็ต้องรักษาควบคู่กันไป
สำหรับการป้องกันโรคเสพติดการชอปปิง ต้องเริ่มจากการวางแผนการใช้จ่าย จดบันทึกรายรับรายจ่าย หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเกินตัว, หากิจกรรมอื่นๆ ทำยามว่าง แทนการชอปปิง เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ออกไปสังสรรค์กับเพื่อน, ฝึกฝนการควบคุมตัวเอง และหลีกเลี่ยงสื่อโฆษณาหรือการตลาดที่กระตุ้นให้ซื้อของ
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคเสพติดการชอปปิงควรเข้ามาปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม
#TicyCity #ตีซี้ชิตี้ #เมือง #City #Health #Shopaholic #ชอปปิง #สุขภาพจิต #จิตแพทย์ #BMHH #BangkokMentalHealthHospital
Leave feedback about this