เมื่อความรัก เกี่ยวพันกับโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร และพื้นที่ที่เหมาะสม
ขึ้นชื่อว่า ‘ความรัก ความสัมพันธ์’ แล้วนั้น แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้ในปัจจัยสี่สำหรับการดำรงชีพ แต่ก็เป็นที่ปรารถนาของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับ การมีใครสักคนเคียงข้าง เข้าอกเข้าใจ พร้อมฟันฝ่าปัญหาชีวิตทั้งดีและร้ายไปด้วยกัน มันคือส่วนเติมเต็มที่ทำให้ชีวิตหนึ่งๆ สามารถสมบูรณ์แบบขึ้นมาได้
แต่ความรัก ก็เช่นเดียวกับทุกกระบวนการทางสังคม มันคือสิ่งที่ต้อง ‘ลงแรง’ และอาจจะต้อง ‘ลงทุน’ เพื่อให้ได้มา ไม่ว่าการลงทุนนั้น จะเป็นเรื่องของทรัพยากร เวลา โอกาส จนถึง ‘ความเชื่อ’ ก็ตาม
ความรักกับพิธีกรรม ‘สายมู’ จึงเป็น ‘การลงทุนที่พบเห็นกันได้อย่างชินตา ตั้งแต่พระตรีมูรติหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยล่วงมาจนถึงพระแม่ลักษมี ชั้นดาดฟ้า อาคารห้างสรรพสินค้าเกสรพลาซ่า ราชประสงค์
หญิงชายมากหลาย ต่างมาบวงสรวงสักการะ และทำการ ‘ขอพร’ จากพระแม่ลักษมี เพื่อให้มีโชคในเรื่อง ‘ความรัก’ อย่างคับคั่ง จนกลายเป็นกระแสร้อนแรงและแฮชแท็ก #Itoldพระแม่ลักษมีaboutyou ที่นอกจากการบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนแล้ว ยังต้องทำการ ‘บรีฟ’ กับพระแม่ ด้วยการชูรูปชาย/หญิง สเปคในฝันผ่านอุปกรณ์โมบายล์
นัยว่าจะขอทั้งที ก็เอาให้ชัดเจน จะได้ไม่เสียเที่ยว พระแม่จะได้ทำงานง่ายๆ หน่อย ….
การบูชาสักการะรูปเคารพตามความเชื่อ เพื่อผลลัพธ์และความสบายใจ เป็นสิ่งที่อยู่คู่วัฒนธรรมไทยมาอย่างเนิ่นนานจนแทบไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดใดๆ แต่ในทางหนึ่ง การบูชาขอความรัก ‘สายมู’ ที่กลายเป็นกระแสร้อนแรงเช่นนี้ ก็สะท้อนภาพของลักษณะการเข้าถึงสิ่งจำเป็นต่อการได้มาซึ่ง ‘ความรัก ความสัมพันธ์’ ที่ดูจะไม่ครอบคลุมเท่าใดนักปัจจัยในการที่ใครสักคนหนึ่งจะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนคนหนึ่งได้นั้น นอกเหนือจากเรื่องของสเปคและรูปลักษณ์ที่ปรารถนาแล้ว มันขึ้นกับอีกสามปัจจัยหลักนั่นคือ โอกาส ทรัพยากร และ ‘พื้นที่’ ….
ทรัพยากรคือเงินทองที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ และมีเหลือพอที่จะใช้สำหรับสร้าง ‘โอกาส’ ในการพบเจอคนใหม่ๆ เพื่อสานสัมพันธ์ผ่าน ‘พื้นที่’ ที่มีความหลากหลายต่อผู้คนที่มีความแตกต่างกัน
ในสมัยโบราณเนิ่นนาน วัด เคยเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน และเป็น ‘พื้นที่’ ที่คนหนุ่มสาว จะได้มาพบปะทำความรู้จักกันผ่านงานเทศกาลบุญต่างๆ ในแต่ละฤดูกาล
ในต่างประเทศ โบสถ์ที่ชาวคริสต์ต้องไปทุกวันอาทิตย์ คือหนึ่งในพื้นที่ ‘สาธารณะ’ อันหลากหลาย ที่คนหนุ่มสาวจะได้ทำความรู้จัก หรือถูกแนะนำให้รู้จัก รวมไปถึงคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านหนังสือ สวนสาธารณะ ฯลฯ
หลากหลายผู้คน ก็หลากหลายความสนใจ ประกอบกับการสร้าง ‘เมือง’ ที่เป็นมิตรต่อ ‘ผู้คน’ ให้สามารถมีทรัพยากรสำคัญอย่างเงินทองและ ‘เวลา’ เพื่อใช้สำหรับการทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ
เช่นนั้นแล้ว การขอพรจากพระแม่ลักษมีกำลังสะท้อนภาพอะไรในสมการของการค้นหาความสัมพันธ์ของคนเมืองยุคใหม่ในไทย?
ลองจินตนาการภาพของ ‘เมือง’ ที่ระบบขนส่งสาธารณะใช้เวลานานและมีราคาแพง เดินทางไปทำงานตอนเช้าก็เสียเวลาไปสามถึงสี่ชั่วโมง เลิกงานห้าโมงหกโมงเย็น ต้องต่อขนส่งสาธารณะให้ทัน เพื่อใช้เวลาอีกสามถึงสี่ชั่วโมงกลับที่พัก ด้วยราคาที่แทบไม่เหลือให้เก็บ หรือใช้สำหรับการสันทนาการหรือพบปะผู้คนใหม่ๆ ใดๆ
แค่จะเอาชีวิตรอดผ่านไปวันๆ หนึ่ง ก็ดูทรหดอดทนยิ่งกว่าซีรีส์ The Hunger Games หรือ Squid Games เข้าไปแล้ว
อาจจะมีคนแย้งว่า ในกรุงเทพฯ ยังมีร้านอาหารกึ่งบาร์ ยังมีผับ ยังมีคาเฟ่อยู่มากมาย หรือโปรแกรม Dating Apps ที่มีหลากหลายให้เลือกใช้ หรือถ้าไม่ไหว ออกต่างจังหวัดก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
แต่อย่าลืมว่า คนที่จะมี ‘เวลา’ และ ‘ทรัพยากร’ เพื่อใช้เวลากับสถานที่และช่องทางที่เปิดให้พบความสัมพันธ์ใหม่ๆ จะต้องมี ‘โอกาสทางสังคม’ ที่มากกว่าคนอื่นด้วย
คนเมืองในยุคปัจจุบัน จึงมีพื้นที่สำหรับการสังสรรค์ปฏิสัมพันธ์จำกัดอยู่แค่ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ฟิตเนสแบรนด์ ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในแทบจะทุกกระบวนการ ไม่ต้องนับการออกต่างจังหวัด ที่แค่จะทำเรื่องลาพักร้อน ก็ดูจะคอขาดบาดตายในสายตานายจ้างเสียเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น มันจึงไม่แปลก ที่แนวคิดคนรุ่นใหม่ กับการขอพรจากเทพเคารพ จะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือก นั่นเพราะมันเป็นการลงทุนที่ ‘สะดวก’ ท่ามกลางปัจจัยที่ ‘ไม่เท่าเทียม’ ในสมการความรักของคนเมือง
เมืองที่ถูกสร้างให้คน ‘เหงา’ จากการเข้าไม่ถึงโอกาส ทรัพยากร และ ‘สถานที่’ เพื่อการนั้นๆ
ถามว่าทำไมต้องจริงจังกับแค่เรื่องคนไปบูชาพระแม่ลักษมีเพื่อขอความรัก? อย่าลืมว่า การหาคู่ครอง ก็เป็นการยกระดับ ‘คุณภาพชีวิต’ ประการหนึ่ง เป็นการลงทุน เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะในทางเศรษฐกิจ สังคม หรือความสบายใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ความสบายใจ’ ที่นับวันจะยิ่งได้มายากขึ้นทุกทีๆ และมีปฏิภาคทางตรงไปพร้อมกับ ‘ค่าใช้จ่าย’ เพื่อซื้อหาสิ่งเหล่านั้นมา…..
‘ความสบายใจ’ ที่พื้นที่สาธารณะสามารถจัดสรรให้ได้ แต่กลับขาดแคลน ความสบายใจและสวัสดิภาพที่ภาครัฐควรกระจายเกลี่ยอย่างทั่วถึง แต่กลับกระจุกรวม และไม่เท่าเทียม
มันจึงมีทั้งคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ปิดประตูตายให้กับความรัก เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ ‘สิ้นเปลือง’ ทั้งทรัพยากรและความรู้สึก และคนที่ ‘แสวงหา’ ความรัก แต่เลือกใช้ทางบูชาสายมู เพราะไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยที่จำเป็นได้
พระแม่ลักษมี จึงต้องทำงานกันหนัก ยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา ตราบเท่าที่เมืองยังไม่เอื้อให้ผู้คนได้ ‘ใช้ศักยภาพของตนเอง’ ในการสร้างโอกาสทางความสัมพันธ์
และแน่นอน ไม่ใช่ทุกคำขอจะได้สมดังหวัง มันจึงมีแฮชแท็ก #พระแม่ลักษมีcancelyourorder ที่ตามมาติดๆ ไม่แพ้กัน
เพราะแม้แต่สายมู ก็ใช่ว่าจะสามารถเกลี่ยกระจายความต้องการด้านความรักให้กับทุกคนได้ อย่างเท่าเทียม….
#TicyCity #City #ความรักสายมูและพื้นที่สาธารณะ #ปัจจัยสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ #พื้นที่สาธารณะ #การเข้าถึงทรัพยากรและโอกาส #Itoldพระแม่ลักษมีaboutyou #พระแม่ลักษมีcancelyourorder
Leave feedback about this