ticycity.com Contents Voice Movement การเลือกลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
Movement Voice

การเลือกลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี

Mutual fund,Love couple senior and model house with stack of coins money on natural green background, Save money for prepare in future and pension retirement concept

เงินออม

โค้งสุดท้ายของปี 2566 แล้ว เตรียมวางแผนลดหย่อนภาษีกันหรือยัง วิธีหนึ่งที่ Ticy Cityเห็นว่าน่าสนใจและเป็นที่นิยมอย่างมาก คือ การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี เพื่อประโยชน์ทั้งลดหย่อนภาษี แถมได้โอกาสในการสร้างกำไรเพิ่มจากเงินลงทุนในอนาคต วันนี้ Ticy City ขอพาไปทำความรู้จัก 3 กองทุน RMF, SSF และ ThaiESG เพื่อให้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมของแต่ละคน

กองทุน RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ Retirement Mutual Fund เป็นตัวช่วยออมเงินสำหรับการเข้าสู่วัยเกษียณในอนาคต โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้การจัดการของผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ และต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี หรือเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี จนถึงอายุ 55 ปี และต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี หากไถ่ถอนเงินก่อน 55 ปี บริบูรณ์ ต้องเสียภาษีเงินปันผลและภาษีเงินได้เพิ่มเติม แต่หากซื้อเมื่ออายุใกล้จะ 55 ปี ก็ยังต้องถือครองนาน 5 ปีขึ้นไป

กองทุน SSF หรือ Super Savings Fund เป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว เน้นการออมเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่งงาน เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ทั้งยังถือครองได้นาน 10 ปีขึ้นไป แต่ไม่น้อยกว่า 5 ปี กรณีถอนเงินก่อน 5 ปี ต้องเสียภาษีเงินปันผล

กองทุน ThaiESG คือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมจากกองทุน RMF และ SSF โดยกองทุนนี้เปิดขายครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2566 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยให้ผู้มีเงินออมมีทางเลือกในการออมและการลงทุนระยะยาว ที่สำคัญยังช่วยให้กิจการของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยกองทุน ThaiESG สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีปี 2566 หากซื้อกองทุนดังกล่าวภายในวันที่ 28 ธันวาคม นี้

เปรียบเทียบกองทุน ThaiESG, SSF และ RMF

ThaiESGSSFRMF
ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ไม่เกิน 30% ของรายได้
จำนวนเงินสูงสุดที่ลดหย่อนได้100,000 บาท200,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ระยะเวลาการลงทุนไม่น้อยกว่า 8 ปีไม่น้อยกว่า 10 ปีไม่น้อยกว่า 5 ปี ขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
เงื่อนไขการซื้อไม่กำหนดเงินลงทุนไม่กำหนดเงินลงทุนไม่กำหนดเงินลงทุน เมื่อซื้อแล้วต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปี
ทรัพย์สินที่ลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ได้ SET ESG Ratingสินทรัพย์ทุกประเภทสินทรัพย์ทุกประเภท
ปีที่สามารถใช้สิทธิได้2566-25752563-25672563 เป็นต้นไป
หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

นักวางแผนเรื่องภาษีหลายคนแนะนำว่า สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี คือ ควรรู้คร่าวๆว่า รายได้สุทธิทั้งปีต้องเสียภาษีในอัตราเท่าไหร่ เพื่อที่จะสามารถพิจารณาจัดสรรเงินลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีได้อย่างเหมาะสม

อัตราภาษีบุคคลธรรมดา

เงินได้สุทธิ (บาท)อัตราภาษีจำนวนเงินภาษีจำนวนเงินสะสม
1-150,000000
150,001-300,0005%7,5007,500
300,001-500,00010%20,00027,500
500,001-750,00015%37,50065,000
750,001-1,000,00020%50,000115.000
1,000,001-2,000,00025%250,000365,000
2,000,001-5,000,00030%900,0001,265,000
5,000,001 ขี้นไป35%

เมื่อถึงขั้นตอนการลงทุน ทางKrungsri The COACH มีคำแนะนำว่า ก่อนการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีใดๆ อย่างแรกที่ต้องพิจารณา คือ ต้องรู้จักความต้องการและความจำเป็นของตัวเอง โดยดูจากสภาพคล่องทางการเงิน หากมีเงินจำกัด ควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุนเป็นอันดับแรก ควบคู่ไปกับระยะเวลาการลงทุน หากเป้าหมายในการลงทุนคือ เน้นการออมเงินระยะยาวประมาณ 10 ปี เราควรเลือกลงทุนใน ThaiESG และ SSF เพราะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อครบ 8 ปี หรือ 10 ปี  โดยไม่ต้องรอจนอายุถึง 55 ปี เหมือน RMF 

แต่ถ้ามีเป้าหมายเพื่อเตรียมเงินสำหรับการเกษียณอายุ ควรเลือก RMF เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ยังเป็นตัวช่วยในการทยอยเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณอีกด้วย เนื่องจากเป็นการลงทุนต่อเนื่องทุกปี (หรือปีเว้นปี) เพราะการลงทุนตั้งแต่อายุน้อย ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เงินงอกเงยในระยะยาว 

แต่ถ้าเมีอายุ 50 ปีขึ้นไป การเลือกลงทุนในกองทุน RMF จะใช้ระยะเวลาในการลงทุนที่สั้นกว่า เพียง 5 ปี ก็สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ไม่ต้องถือจนครบกำหนด 8 หรือ 10 ปีเหมือน ThaiESG และ SSF 

นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่รับได้ควบคู่ไปด้วย ถ้าเป็นนักลงทุนระดับความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง แนะนำกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางในสัดส่วนที่สูง เช่น พันธบัตร เงินฝาก หรือตราสารหนี้ เป็นต้น แต่หากเป็นนักลงทุนระดับความเสี่ยงสูง สามารถเลือกลงทุนได้ทั้ง SSF หรือ RMF ที่มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูงขึ้นได้ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หรือทองคำ เป็นต้น

Ticy City มีคำแนะนำง่ายให้เข้าไปดู 10 อันดับกองทุนที่ติด top return มากที่สุด โดยสามารถคลิ๊กเลือกประเภท RMF หรือ SSF ได้จากลิงก์ https://www.wealthmagik.com/fund/topchart

ตัวอย่าง กองทุนรวม RMF- ลงทุนในตราสารหุ้น 10 อันดับที่ติด top returns

และถ้าหากอยากได้ตัวช่วยในการคัดกรองกองทุนจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา อาจใช้ข้อมูลของ Morningstar Rating ซึ่งเป็นการคำนวณข้อมูลผลการดำเนินงาน (Performance) ย้อนหลัง และจัดอันดับให้เฉพาะกองทุนที่มีประวัติมากกว่า 3 ปี โดยคะแนนจะแบ่งเป็นดาว สูงสุดคือ 5 ดาว ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้คะแนนหรือดาว เป็นเกณฑ์ช่วยเลือกกองทุนแบบง่ายๆ

Morningstar Rating จัดทำโดย Morningstar บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการด้านการเงิน ตั้งแต่ปี 1984 ดำเนินธุรกิจจากการค้นคว้าข้อมูลการลงทุน และให้บริการบริหารจัดการการลงทุน

ตัวอย่าง Rating กองทุน RMFลงทุนในหุ้น ซึ่งเราสามารถดูผลตอบแทนระยะสั้นและยาวได้ด้วย ไปที่ลิงก์: https://www.morningstarthailand.com/th/screener/fund.aspx#?filtersSelectedValue=%7B%22TaxSavingFund%22:%7B%22id%22:2%7D%7D&page=1&sortField=legalName&sortOrder=asc

Ticy City หวังว่าข้อมูลและคำแนะนำเบื้องต้นเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีอยู่ หากต้องการข้อมูลเชิงลึกควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนของธนาคารและบริษัทจัดการกองทุนต่อไป

#TicyCity #ตีซี้ชิตี้ #เมือง #City #กองทุน #ภาษี #ลดหย่อน #RMF #SSF #ThaiESG

 

Exit mobile version