ticycity.com Contents Voice Movement “ท่องเที่ยวไทย” เศรษฐกิจสำคัญของปี 2567
Movement Voice

“ท่องเที่ยวไทย” เศรษฐกิจสำคัญของปี 2567

Woman traveler with backpack enjoying at Krachiew flower field, Thailand. Travel concept.

“เที่ยวใกล้ ไปกลับ กระชับเส้นทาง” 

เริ่มต้นปี 2567 แบบนี้ จะมีเรื่องอะไรที่จะน่าสนใจไปมากกว่าเรื่องของเศรษฐกิจปากท้อง โดย Ticy City ได้ไปเจอข้อมูลดีๆ ของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี  หรือttb analytics ที่คาดการณ์ว่า ปี 2567 ไทยเที่ยวไทยจะสร้างเม็ดเงินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท พร้อมแนะภาครัฐเร่งพัฒนาต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยวซ้ำ ก่อนการเที่ยวไทยจะกลายเป็น “เที่ยวเมืองไทย เคยไปมาแล้ว” เลยขอหยิบยกมาเพื่อนำเสนอสำหรับเป็นแนวทางในรับมือรวมถึงการวางแผนทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทย 

ทั้งนี้ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดปี 2567 การท่องเที่ยวในประเทศเตรียมสร้างประวัติศาสตร์จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันและสร้างเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท ภายใต้ความกังวลจากโครงสร้างประชากรที่ลดลงและการดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยวซ้ำ (Revisit Intention) แนะภาครัฐเร่งพัฒนาต่อยอดขับเคลื่อนจุดเด่นเชิงวัฒนธรรม ผนวกกับวัตถุประสงค์พิเศษ ก่อนการเที่ยวไทยจะกลายเป็น “เที่ยวเมืองไทย เคยไปมาแล้ว”

การท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นกิจรรมทางเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ แต่ยังถือเป็นช่องทางสำคัญของการส่งผ่านเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่หนึ่งให้เกิดการหมุนเวียนในพื้นที่ต่าง ๆ หลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ปกติการหมุนเวียนของเม็ดเงินทางเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ เป็นการเปิดโอกาสในการสร้างธุรกิจอันเป็นแหล่งงานตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตามข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้ให้เห็นถึงช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562ซึ่งการท่องเที่ยวในประเทศสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้สูงกว่า 1.1 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากการพ่นพิษของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศหยุดชะงักกระทันหันโดยรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศหดตัวลงเหลือเพียง 0.22 ล้านล้านบาท ในปี 2564 ก่อนที่ในปี 2566 สัญญาณการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวกลับมาชัดเจน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศคาดว่าจะขยับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 254.4 ล้านคน-ครั้ง  

แต่จากภาวะหนี้ครัวเรือนและต้นทุนค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงของภาคครัวเรือนส่งผลต่อพฤติกรรมการปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวเป็น “เน้นการท่องเที่ยวไปเช้าเย็นกลับในจังหวัดข้างเคียง ลดระยะเวลาพักแรมในจังหวัดห่างไกล หรือเที่ยวต่างภูมิภาคในจังหวัดที่ใกล้เพื่อลดคืนพักแรม” ทำให้รายจ่ายต่อทริปลดลงส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศมีการเติบโตไม่สอดคล้องกันราว 0.8 ล้านล้านบาท

สำหรับปี 2567 นี้  ttb analytics ประเมินการท่องเที่ยวในประเทศว่ายังสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในมิติด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะสูงถึง 292.1 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งแม้ยังอยู่ภายใต้บริบท “เที่ยวใกล้ ไปกลับ กระชับเส้นทาง” ส่งผลให้รายจ่ายต่อทริปลดลงแต่ด้วยการชดเชยของมิติจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศสามารถสร้างมูลค่าเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท ได้อีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในมิติเชิงลึก พบว่าในปี 2567 นี้ อาจเป็นจุดสูงสุดจากโครงสร้างอายุของประชากรวัยท่องเที่ยว (25 ปี – 65 ปี) เข้าสู่ระยะแรกของการลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่อาจส่งผลต่อข้อจำกัดเรื่องการเพิ่มขึ้นของจำนวนการท่องเที่ยวระยะถัดไป 

ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องวางแผนและพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อรับมือ เนื่องจากโปรเจกต์  Unseen Thailand หรือเที่ยวเมืองรองที่ไทยกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้นกำลังเผชิญข้อจำกัด เมื่อแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยเห็น กลายเป็นสิ่งที่เห็นแล้ว และจะสามารถต่อยอดเป็นอยากเห็นอีกได้หรือไม่ (Revisit Intention) 

อีกทั้งในกรณีที่ภาครัฐหรือหน่วยงานในพื้นที่ไม่สามารถชักจูงใจให้นักท่องเที่ยวเกิดการอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งได้ เกรงว่าแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้” ที่เคยส่งผ่านการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่อาจกลายเป็น “เที่ยวเมืองไทย เคยไปมาแล้ว” 

ttb analytics จึงขอเสนอแนะการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้สามารถมีการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อต่อยอดให้เกิดความต้องการท่องเที่ยวอีกครั้ง ดังนี้

1. เชื่อมโยงสิ่งดึงดูดการท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อต่อยอดและยกระดับสิ่งดึงดูดเดิมที่มีอยู่ เช่น สร้างการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงโดยอาศัยความเกี่ยวโยงเชิงภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือวัฒนธรรม สำหรับสร้างเรื่องราว (Journey) แห่งการเดินทางเพื่อเสริมความประทับใจ และสามารถบอกเล่าความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยมาให้เกิดความสนใจ (Storytelling) โดยพัฒนาต่อยอดเรื่องราวการเดินทางในบริบทถัดไปที่มีความคล้ายกัน หรืออาจเป็นอารมณ์ที่ต่างกันออกไป

2.สร้างสรรค์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Attraction) เร่งพัฒนาจุดเด่นเชิงวัฒนธรรม (Cultural Attraction) เสริมเรื่องราวความน่าสนใจทั้งในส่วนของงานศิลป์ที่สะท้อนวิถีชีวิตซึ่งมีความต่างกันไปในแต่ละสังคมสะท้อนผ่านวัฒนธรรมทางวัตถุ รวมถึงการขับเคลื่อนผ่านวัฒนธรรมทางจิตใจที่สะท้อนผ่านความเชื่อ โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคล เสริมสร้างความมั่นใจ ที่ส่งผลดีต่อการตัดสินใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้น บนพื้นฐานที่อธิบายได้ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ผู้คนส่วนมากหลีกหนีความเสี่ยงและไม่ยอมเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ส่งผลต่อการเสียโอกาสดีที่จะเข้ามาในชีวิต แต่เมื่อได้ไปสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานตามสถานที่ต่าง ๆ ของแต่ละปัจเจก ย่อมส่งผลให้ผู้คนบางส่วนมีความเชื่อมั่นที่จะเลือกทางเลือกที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อหาโอกาสให้ตนเองมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต  ซึ่งพลังที่ได้รับจากการส่งผ่านวัฒนธรรมด้านจิตใจและความเชื่อนี้ยังสามารถส่งผ่านเป็น Soft Power ที่ทรงพลังได้จากการตอบโจทย์พื้นฐานของมนุษย์ทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวัง

3เชื่อมโยงวัตถุประสงค์อื่นให้ผนวกเข้ากับการท่องเที่ยว เนื่องจากการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพักผ่อน ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดในด้านการกลับมาท่องเที่ยวซ้ำ ดังนั้น การผนวกเข้ากับความสนใจพิเศษอื่น (Special Interest Tourism) เช่น ในภาพใหญ่ของประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) โดยในภาพย่อยรายพื้นที่ อาจใช้ความสนใจที่หลากหลายและใช้จุดเด่นที่ต่างกันในแต่ละพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาโดยหลายพื้นที่เริ่มได้รับการยกระดับเป็นงานประจำปี หรือการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย หรือแม้แต่ในรูปแบบการท่องเที่ยวที่เป็นการอาศัยพักแรมระยะยาวที่สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี 

Pileh blue lagoon at phi phi island, Krabi, Thailand.

โดยสรุปแล้ว สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศปี 2567 คาดฟื้นตัวสมบูรณ์ทั้งในมิติของจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวไทยขับเคลื่อนผ่านสิ่งดึงดูดที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติในแต่และพื้นที่ แต่ไม่ต่อยอดพัฒนาสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับไปท่องเที่ยวซ้ำ ด้วยเหตุนี้บนมิติของโครงสร้างประชากรนักท่องเที่ยวเริ่มมีจำนวนลดลง ซึ่งนับจากปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะสร้างตัวเลขสูงสุดได้ 2 ปีต่อเนื่องก็อาจเป็นจุดสูงสุดสุดท้ายและกลายเป็นเพียงหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อกระแสการท่องเที่ยวทุกอย่างไม่ได้รับการพัฒนาต่อยอดและความนิยมเริ่มจืดจางไปตามกาลเวลา

ขอบคุณภาพ : https://www.freepik.com/

#TicyCity #ตีซี้ชิตี้ #เมือง #City #การท่องเที่ยว #เศรษฐกิจไทย #ttbanalytic

Exit mobile version