ความสัมพันธ์ไทย-จีน 50ปี
นับเป็นอีกหนึ่งสถานทีซึ่งต้องถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองไทยสำหรับซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาฯ และ “ถนนสายมังกร” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งTicy City ทราบมาว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ยกให้เป็น Must Seek and See แลนด์มาร์กแห่งใหม่ เชื่อมความยิ่งใหญ่ให้ไชน่าทาวน์ และยังเป็นพื้นที่สำคัญทางการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ชุมชน สังคม วัฒนธรรม ที่โด่งดังในระดับโลกอีกด้วย
สำหรับการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28กรกฎาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ซึ่งเป็นความร่วมมมือระหว่างสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคีเครือข่าย
ซุ้มประตูปัญจมังกรเฉลิมพระเกียรติ : ถาวรวัตถุจากดวงใจพสกนิกรทั่วประเทศ
โครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อซุ้มประตูทั้งสองซุ้ม เพื่อความเป็นสิริมงคลคือ
ซุ้มที่ 1 “วชิรสถิต 72 พรรษา” หมายถึง พระบาทสมแด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา
ซุ้มที่ 2 “วชิรธำรง 72 พรรษา” หมายถึง เอกลักษณ์แห่งการจารึกความเทิดทูนของมวลพสกนิกรทั่วประเทศ ต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในอภิมหามงคลในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
ทั้งนี้การสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ยังได้รับการสนับสนุนทั้งจากจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย กรมศิลปากร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตลอดจนองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วน และประชาชนทั่วประเทศ
ปัญจมังกร : สัญลักษณ์แห่งมังกรทั้งห้า การสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เกิดจากแนวคิด ปรากฏการณ์แห่งมังกรทั้ง 5
- พระมหากษัตริย์ทรงได้รับการสดุดี เป็น มังกรแห่งมวลมนุษย์
- เป็นนักษัตรประจำปีพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ปีพุทธศักราช 2567 เป็นนักษัตรปีมังกรตามสุริยคติ
- วัดเล่งเน่ยยี่ หรือ มังกรกมลาวาส เป็นหนึ่งในศูนย์รวมใจพุทธศาสนิกชน
- ถนนเจริญกรุง ได้ชื่อว่า “ถนนสายมังกร”
สถาปัตยกรรม : ประยุกต์ศิลปะไทยกับจีน
เป็นศิลปะแบบจีนภาคเหนือ ลักษณะเป็นซุ้มคร่อมถนนเจริญกรุง มีฐานเสาคู่เดียวบนทางเท้าทั้งสองฝั่ง กึ่งกลางหลังคาชั้นบน ประดิษฐานตราสัญลักษณ์ท่ามกลางมังกรคู่หัวหน้าเข้าหาตราสัญลักษณ์ หลังคาและมังกรคู่เป็นสีเหลืองอันเป็นสัญลักษณ์แห่งพระมหากษัตริย์ เสาและส่วนประดับเป็นสีต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับพระราชวังของจีน โครงสร้างภายในเป็นคอนกรีตเสริมใยแก้ว ฐานซุ้มเป็นฐานปัทม์ เอกลักษณ์ดอกไม้ไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร
เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในวาระมหามงคลที่ยิ่งใหญ่นี้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ส่งมอบประติมากรรมมงคลประดับฐานของซุ้มประตูทั้งสองแห่งเพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ยั่งยืนมาตลอด 50 ปี ประติมากรรมหินอ่อนหยกขาว ฮั่นไป๋ยู่ แกะสลักเป็นรูปช้าง สิงโต อย่างละสองคู่ และกลองสี่คู่ ซึ่งแกะสลักโดยประติมากรหินอ่อนเลื่องชื่อของจีนมาประดิษฐาน ณ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนวความคิดในการออกแบบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ออกแบบเป็นซุ้มประตูแบบจีน สถาปัตยกรรมของซุ้มเป็นศิลปะแบบจีนภาคเหนือ มีลักษณะเป็นซุ้มคร่อมบนถนนเจริญกรุง มีฐานเสาอยู่บนทางเท้าทั้งสองฝั่ง เป็นซุ้มเสาคู่เดียว มีหลังคาด้านบนสามหลังคา ลดระดับสองชั้น ซ้ายขวา กึ่งกลางของหลังคาชั้นบนประดิษฐาน ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม2567 ประดิษฐานกลางมังกรคู่ หันหน้าเข้าหา ตราสัญลักษณ์ฯ ตัวมังกรคู่เป็นปูนปั้นระบายสี หมายถึงพสกนิกร ไทย-จีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมใจแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ น้อมสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณ ขององค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อม ชาวไทย-จีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ให้อยูร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร
การตกแต่งซุ้มประตู เลือกใช้หลังคาสีเหลือง ฐานานุศักดิ์ ขององค์จักรพรรดิ เสาสีแดง และประดับด้วยลวดลายมังกรห้าเล็บ หมายถึงพระมหากษัตริย์ สีแดงธาตุไฟ, สีเหลืองธาตุดิน, สีดำ สีน้ำเงิน ธาตุน้ำ, สีเขียวธาตุไม้, สีขาวธาตุทอง สมัยราชวงศ์หมิงและชิง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กับ พระราชวังจีน และอาคารทางราชการของจีน มีการประดับด้วยสัตว์ สิริมงคลต่างๆ ประกอบด้วย เซียนขี่สัตว์ มังกร หงส์ สิงโต ม้าทะเล ม้าสวรรค์พยัคฆมัจฉา เป็นต้น
โครงสร้างภายใน เป็นโคงสร้างเหล็กรูปพรรณ เชื่อมต่อกันตามรูปทรงที่ก าหนด ส่วนภายนอกใช้วัสดุ GRC คอนกรีตเสริมใยแก้ว (GRC ย่อมาจาก Glass Fiber Reinforced Concrete หรือก็คือการเสริมความแข็งแรงของคอนกรีตด้วยใยแก้ว) ทั้งหมด เพื่อช่วยลดน้ำหนักของซุ้มประตู การประดับตกแต่ง ซุ้มประตู ใช้วิธีเขียนลวดลาย ลงบนผิวคอนกรีตเสริมใยแก้ว จากนั้นเคลือยด้วยน้ำยาเคลือบ เพื่อให้เกิดความคงทนถาวร ส่วนฐานซุ้ม เป็นฐานปัทม์แบบศิลปะไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร ด้านบนประดับด้วย ประติมากรรมกลองหิน แกะสลักหินอ่อนขาว จากประเทศจีน ด้านหน้าและหลังของซุ้ม มีการประดับด้วยประติมากรรมช้าง และสิงโตแกะสลัก ด้วยหินอ่อนขาวจากประเทศจีน สนับสนุนโดย สาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ขั้นตอนการก่อสร้างใช้วิธีเตรียมวัสดุก่อสร้างทั้งหมดจากโรงงาน แล้วขนส่งมาประกอบ ยังสถานที่ก่อสร้าง และตกแต่งศิลปกรรมต่างๆ เพิ่มเติมจนแล้วเสร็จ
ฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี 2568
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ขอมีส่วนร่วมในกิจการงานอันยิ่งใหญ่นี้ มอบชุดประติมากรรมหินอ่อนแกะสลักให้กับซุ้มประตูทั้ง 2 แห่งนี้ ด้วยประติมากรรมรูปช้างและสิงโตอย่างละสองคู่ และรูปกลองสี่คู่ ซึ่งแกะสลักจากหินอ่อนหยกสีขาว (หินฮั่นไป๋ยู่) ชั้นเลิศด้วยฝีมือช่างที่ยอดเยี่ยมของอำเภอฉวีหยาง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งกำเนิดประติมากรรมแกะสลักของประเทศจีน โดยได้ใช้เวลาสี่เดือนในการแกะสลัก
ทั้งนี้ ประติมากรรมรูปช้างได้แกะสลักตามรูปแบบช้างพาหนะที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงประทับในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นช้างทรงเครื่อง ตัวหนังสือที่แกะสลักบนผ้าคลุมหลังช้างทั้งสี่ตัวนั้น เป็นคำว่า จี๋ (สิริ) เสียง (มงคล) หรู (สม) ยี่ (ความปรารถนา) ตามลำดับ ส่วนประติมากรรมรูปสิงโตนั้น แกะสลักตามรูปแบบสิงโตที่จัดวางอยู่ทั้งสองฝั่งหน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ ซึ่งเป็นอาคารที่มียศศักดิ์สูงที่สุดในพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง สิงโตแต่ละคูมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งป็นสัญลักษณ์ของอำนาจบารมีที่น่าเกรงขามและบุญวาสนาที่สืบทอดกันอย่างไม่ขาดสาย ส่วนประติมากรรมรูปกลองนั้น ได้แกะสลักลวดลายเมฆมงคล ซึ่งตามความเชื่อและประเพณีของชาวจีนหมายถึงความปรองดองสมานฉันท์ ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองและความสงบสุขของประชาชน
ถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของประเทศไทย สู่ถนนสายมังกรอย่างสมบูรณ์แบบ
ถนนเจริญกรุงเคยมีบทบาทสำคัญทางด้านการค้าระหว่างประเทศในรัชสมัยเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน การมีซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติทั้งสองแห่งนี้บนถนนเจริญกรุง จะเป็นการฟื้นฟูความสำคัญ และบทบาทของถนนเจริญกรุงให้กลับมาเป็นที่รุ่งโรจน์เฟื่องฟูอีกครั้ง และจะสอดคล้องความสำคัญและยิ่งใหญ่ของถนนเยาวราชที่มีความสำคัญและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
และเพื่อให้ชาวไทยได้มีส่วนร่วมจารึกประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ครั้งสำคัญ จึงได้มีการลงนามผ่านช่องทาง https://www.thaichamber.org/donation ซึ่งเป็นรวมพลังชูแลนด์มาร์ก “ซุ้มประตูมังกร” ถนนสายใยแห่งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย-จีนอันล้ำค่า หนึ่งในซอฟต์เพาเวอร์ของไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวมงคล เปิดศักราชใหม่ เสริมพลัง รับความเฮง ในเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็ง 2568 นี้ด้วย
#TicyCity #ตีซี้ซิตี้ #เมือง #City #กรุงเทพ #ถนนสายมังกร #ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ72พรรษา #แลนด์มาร์กแห่งใหม่#ความสัมพันธ์ไทยจีน50ปี
Leave feedback about this