มกราคม 31, 2025
ticycity.com
Movement Voice

เปิดบ้าน ‘หมีเนย’ ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เจาะการตลาดแบบ Humanizing

‘น้องหมีเนย’ เปิดบ้านให้ชมแล้ว ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มี 2 ชั้น 7 ห้องและสวนดอกไม้ ชูการตลาดแบบ ‘Humanizing’ เจาะใจ ‘มัมหมี พ่อหมี’ ส่งต่อรอยยิ้มให้ทุกคน
เป็นครั้งแรกที่ หมีเนย เปิดบ้านสวยน่ารัก ณ ชั้น 5 สยามพารากอน ในคอนเซปต์ A Magical Journey to Our Buttery World ชมห้องและของตกแต่งน่ารัก 7 ห้อง และสวนดอกไม้ผสมผสานเทคนิคพิเศษ พร้อมชมคอลเลคชั่นพิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะที่บ้านน้องเนย

ชวน มัมหมี พ่อหมี และเหล่าแฟนคลับตัวยง ต้อนรับ หมีเนย เปิดบ้านใหม่ ณ ชั้น 5 สยามพารากอน ชมห้องน่ารัก ของตกแต่งเฉพาะตัวน้องหมีเนย
เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดบ้านน้องเนยครั้งนี้ ทั้ง BUTTERBEAR และ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ตั้งใจให้เป็น attraction ใหม่ใจกลางเมือง ด้วยความลงตัวของน้องเนยขวัญใจคนไทยและต่างชาติ

โดยร่วมกับ สยามพารากอน เนรมิตบ้านน้องเนย และเปิด Butterbear Pop-Up Café ชมบ้านแล้วแวะชิมขนม หรือซื้อของที่ระลึก

มัมหมี พ่อหมี สามารถติดตามประกาศกิจกรรม exclusive และอัปเดทสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่มีขายในบ้าน BUTTERY WORLD เท่านั้น ทุกวันที่ 25 ของแต่ละเดือน ได้ที่ Facebook Butterbear.th และ Facebook House of illumination ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ www.icvticket.com

ราคาบัตรเข้าชมบ้านน้องเนย มี 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 Admission Ticket เฉพาะบัตรเข้าชมบ้านน้องเนยเท่านั้น บัตรผู้ใหญ่ 499 บาท และ บัตรเด็ก 350 บาท (เด็กที่มีความสูงระหว่าง 91-120 เซนติเมตร) และเข้าฟรี สำหรับเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร
ประเภทที่ 2 Merchandise Package ราคา 750 บาท บัตรเข้าชมบ้านน้องเนย พร้อมสินค้าที่ระลึกคอลเลกชันพิเศษ จำนวน 2 ชิ้น
ประเภทที่ 3 Meet & Greet Package ราคา 1,500 บาท จำกัดจำนวน 60 คน/รอบเท่านั้น มัมหมี พ่อหมี จะได้ Meet & Greet น้องเนย พร้อมสิทธิ์ถ่ายภาพแบบ 1:1 (เวลาถ่ายรูป 10 วินาที ต่อท่าน) รวมถึงได้ Photo card และสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ จำนวน 1 ชิ้น

สินค้าที่ระลึกดีไซน์พิเศษเฉพาะที่บ้าน BUTTERY WORLD และออกแบบใหม่ทุกเดือน ให้เหล่ามัมหมี พ่อหมี ได้เก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นแห่งความทรงจำในบ้านน้องเนย จำกัดสิทธิ์ซื้อได้ 5 ชิ้นต่อท่าน

เจาะการตลาดแบบจับต้องได้เหมือนมนุษย์ : Humanize Marketing / Humanizing Brand : สร้างด้อมน้อยเนย หรือหมีเนย จนทุกวันนี้กลายเป็นซุปตาร์ไปแล้ว
จากยอดการดู กดไลค์ กดแชร์ คอมเมนต์ ตามติดทุกกิจกรรมรวมกว่า 13 ล้าน เอนเกจเมนต์ โดยไม่ได้ซื้อโฆษณา (ตัวเลขเมื่อกลางปี 2024 จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

ด้วยการตลาดแบบทำให้แบรนด์มีชีวิต หรือ Humanize Marketing ไม่ได้มุ่งขาย แต่ให้ลูกค้าจดจำและรักแบรนด์ ติดต่อและสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ไม่เป็นแค่ยี่ห้อหรือตราสินค้า แต่ทำให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงตัวตน นิสัยใจคอ ด้วยการแสดงออกท่าทางต่าง ๆ

และก้าวหน้ายิ่งขึ้นด้วยการตลาดแบบเจาะใจ สัมผัสได้เหมือนมนุษย์ ตอนนี้กลายเป็นสื่อโซเชียล, สื่อดิจิทัล ยุคใหม่ ที่พัฒนาตัวมาสคอตให้เหมือนมนุษย์ มีพัฒนาการการสื่อสารที่เหมือนคน
ความเป็นมาของมาสคอต : หมีเนย คือมาสคอตของเบเกอรี่แบรนด์ butterbear มีแคแรคเตอร์ที่ชัดเจน ดูน่ารัก จริงใจ ไร้เดียงสา ประกอบท่าเต้นตะมุตะมิ ถูกใจมัมหมี พ่อหมี ทำให้ย้อนเวลาช่วงเด็กที่มีตุ๊กตาหมีนอนกอดก่อนนอน พูดคุยกับตุ๊กตาตามจินตนาการของเด็กวัยนั้น


มาสคอตมาจากไหน : เริ่มแรกจากตัวการ์ตูนยุค 1950s นักการตลาดสร้างตัวการ์ตูนเลียนแบบสัตว์ (บ้างเป็นคน) เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าบุหรี่และเหล้า ซึ่งมีข้อห้ามเผยแพร่เหมือนบ้านเรา ต่อมาสินค้าสิ่งทอเริ่มทำตาม ยุคนั้นเป็นภาพโฆษณา 2 มิติ ยังไม่สร้างตัวตนจริงจัง


เช่นแมวดำนั่งถักไหมพรม, นกกระสาสองตัวใช้ปากถักนิตติ้ง เพื่อโฆษณาสิ่งทอ ต่อมาชาวฝรั่งเศสเคลมว่า มาสคอตถือกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส จากคำศัพท์ว่า mascotte แปลว่า lucky charm บันทึกไว้เมื่อปี ค.ศ.1867 ไม่นานนักชาวอังกฤษนำไปใช้เมื่อปี 1881 เปลี่ยนเป็นคำว่า mascot


คนอเมริกันก็เคลมว่า เขาคิดมาสคอตก่อนใคร จากรูปโฆษณาโอ๊ตมีลของสินค้าแบรนด์ Quaker Oats (รูปผู้ชายผมสีเงินยาวประบ่า) รูปนี้นักโฆษณาเผยแพร่มา 146 ปีแล้ว ภายหลังเปิดเผยว่า รูปหน้าผู้ชายคือเจ้าของผู้ก่อตั้งแบรนด์ชื่อ William Penn ผู้สร้างแบรนด์ข้าวโอ๊ตในเพนซิลวาเนีย


แบบนี้เรียกมาสคอตได้หรือ : รูปโฆษณาเป็นแผ่นภาพ 2 มิติ คนอเมริกันบอกว่าก็เรียกว่า mascot logo ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้น

เช่นนั้นแล้ว นักการตลาดหัวใสชาวอเมริกันจึงออกแบบ มาสคอต 3 มิติ มีตัวตนจับต้องได้จริง เอาไปลงถนนเลย จึงกลายเป็น 3 dimensional mascot โดยได้ไอเดียมาจากหุ่นกระบอก
เช่นสินค้าแมคโดนัลด์ และตุ๊กตารูปสัตว์หน้าตายิ้มแย้ม (ที่จับต้องได้) เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่น้ำอัดลม ไก่ทอด กีฬาเบสบอล อเมริกันฟุตบอล ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ

มาสคอตตัวจริงต้องญี่ปุ่น : ชาวอาทิตย์อุทัยผู้ไม่เคลมว่าเป็นผู้ให้กำเนิดมาสคอตจนลือลั่นไปทั่วโลก บอกว่า Hello Kitty เป็นมาสคอตยอดนิยมของคนทั่วโลก ดังไกลถึงอเมริกา เกิดแล้วดังก่อนใคร มาจากหนังสือการ์ตูนที่เป็น 2 มิติ

ทุกวันนี้ บ้าน Hello Kitty จัดแสดงไปทั่วโลก เวลาว่างน้องคิตตี้ก็จะปรากฏโฉมให้แฟนคลับมาเซลฟี่

ญี่ปุ่นเป็นชนชาติการ์ตูนคันทรี่ ดังนั้น มาสคอตจึงมีทุกที่ ตั้งแต่ประชาสัมพันธ์สินค้า อาหาร วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว รถไฟ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ สร้างมูลค่าการตลาดปีละหลายพันล้านเยน และส่งออกไปทั่วโลก

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนและจริงจังให้งบประมาณกับมาสคอตปีละราว 1 ล้านเยน ทุกปีจัดประกวดมาสคอต จัดงานมหกรรมมาสคอต แข่งขันกันออกแบบ คนญี่ปุ่นชอบมาก สนุกทุกครั้งที่ได้ถ่ายรูป และซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน

รู้จักยูรู-เคียระ (Yuru-Chara) : หมายถึงมาสคอตประจำเมือง ที่ทำให้ผู้คนจดจำและประทับใจ เพราะจะออกมาให้แฟนคลับกรี๊ดตามอีเวนท์ต่าง ๆ รวมถึงเป็นสินค้าที่ระลึกสารพัดรูปแบบให้สะสม
นักการตลาดอธิบายว่า มาสคอตเริ่มแรกมาจากตัวการ์ตูน เพราะชาวญี่ปุ่นอะไร ๆ ก็วาดตัวการ์ตูน แม้กระทั่งวิธีใช้เตารีดผ้า กาต้มน้ำ ฉีกซองกินบะหมี่สำเร็จรูป ใช้รถไฟฟ้า ฯลฯ ก็อธิบายด้วยลายเส้นการ์ตูนดูเรียบง่าย เข้าใจได้ทันที

มาสคอตในความหมายของคนญี่ปุ่น คือ kyarakuta แปลว่า cute, slightly silly and soft characters มาสคอตที่ออกมาโบกมือทักทายผู้คน จับมือกับเด็ก ทำท่าทางน่ารัก ๆ ก็ต้องน่ารักนะ ดูไร้เดียงสา บุคลิกอบอุ่น

หลายคนรู้จักมาสคอตจำชื่อไม่ได้แต่จำหน้าได้ เพราะเราไม่ใช่คนญี่ปุ่น มีตัวอะไรบ้าง นอกจากคิตตี้ (และโดราเอมอน, โพเกมอน) คนญี่ปุ่นก็สร้างมาสคอตให้มีบุคลิกที่นอกเหนือจากคำว่าน่ารัก ตะมุตะมิ มีตัวอะไรบ้าง

หมีคุมะมง (Kumamon) หมีแก้มแดงตัวใหญ่สีดำ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและรถไฟชินกันเซ็งสายคิวชู
ฟูนะชิ (Funassyi) ภูติสาลี่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดชิบะ เป็นมาสคอตตัวแรกที่พูดได้ แต่ก็พูดมาก บุคลิกกวน ๆ เกรียน ๆ
มาริโมะโคริ (Marimakkori) แบรนด์แอมบาสเดอร์สาหร่ายจากฮอกไกโด เป็นมนุษย์สาหร่ายบุคลิกทะลึ่ง หยาบคาย เล่ากันว่าบางร้านบางโรงแรมไม่ต้อนรับ แต่ตอนนี้ยอมรับแล้ว
โอสซัง (Ossan) คุณลุงหัวล้านแห่งจังหวัดเฮียวโงะ มีภรรยา ลูก เลี้ยงหมาด้วย
มาสคอตโชกุน อิเอะยะซุคุง ชวนเที่ยวจังหวัดชิซูโอกะ ปอยผมรูปปลาไหล มาจากตัวตนจริงของโชกุนตระกูลดังที่สุดของญี่ปุ่น
ฮิโตเชียน มาสคอตฉลอง 400 ปี ปราสาทฮิโกะเนะ เป็นแมวซามูไรคอยปกป้องปราสาท
ใคร ๆ ก็รักมาสคอต…

อ้างอิง : trexthai.com, grapheine.com, growdnd.com
หมายเหตุภาพ: หมีคุมะมง Japan.travel.enlca / มาสคอตญี่ปุ่น sabukaru.online / Japanalytic.com / มาสคอตอเมริกันฟุตบอล nfl.com / มาสคอตแมคโดนัลด์ mashed.com / มาสคอตฟูนิชิ womjapan.com

#บ้านหมีเนย #หมีเนย #สยามพารากอน #มาสคอต #Humanize Marketing

Leave feedback about this

  • Rating

PR news, TICY PR

LINE Open

Destination, Food

เปิดประสบ

Movement, Voice

ตรวจดวงชะ

Health, Trends

อะไรคือค่

Destination, Food

‘บุฟเฟ่ต์

PR news, TICY PR

อิ่มอร่อย