East (Technical) meets West (Story)
คุณคิดว่าปัจจัยที่ทำให้ ‘หนังสยองขวัญ’ นั้น ‘สยอง’ คืออะไร?? บรรยากาศที่เหมาะสม การถ่ายทำที่ดี ลูกเล่นความน่ากลัวที่พอเหมาะ พลังนักแสดงที่เข้าใจบริบทของเรื่องราว?? แม้จะกล่าวได้ว่าทั้งหมดคือสิ่งที่จำเป็น แต่สิ่งที่ผลักให้หนังสยองขวัญกระโจนข้ามขั้นขึ้นไปไกลไปอีกขั้น คือการที่มันสามารถ ‘เล่นกับผู้ชม’ ได้อยู่หมัด ตลอดระยะเวลาเริ่มต้น จนถึงช่วงสุดท้ายม่านจบโรยตัว
![](https://ticycity.com/wp-content/uploads/2024/08/LL_004-1.jpg)
นับตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง มันชัดเจนมากๆ ว่าหนังเรื่องนี้ ได้อินสไปร์มาจากหนังสยองขวัญสายญี่ปุ่นมาแบบเต็มๆ (ไม่ว่าจะทั้ง Kiyoshi Kurosawa หรือ Takashi Shimizu) ทั้งบรรยากาศ เทคนิคการถ่ายทำ การเล่นมุมกล้อง เสียงประกอบ จนถึงการลำดับภาพ จะเรียกว่ามันคือ ‘หนังสยองตะวันตก ที่ใช้ลูกเล่นตะวันออก’ ก็คงไม่ผิดนัก…
เรียกว่าใช้ตำราครูฝั่งตะวันออกกันแบบไม่มีกั๊ก แต่ไม่ใช่การลักจำมาใช้แบบขอไปที เพราะ Osgood ‘Oz’ Perkins นั้น พิสูจน์ชัดเจนในระยะเวลาตลอด 100 นาทีของหนังว่า เขามีความสร้างสรรค์และแม่นยำในการใช้อุปกรณ์ทั้งหลายในมือขนาดไหน
นั่นทำให้ได้ผลลัพธ์หรูๆ อย่างการ Still ภาพนิ่ง การถ่ายแบบ Longshot การใช้เสียงประกอบกับการแทรกภาพเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชม ก่อให้เกิดก้อนมวลที่อบอวลด้วยความคลุมเครือ ที่ทำให้รู้สึกต้องเหลียวหน้าระวังหลัง ไปพร้อมกับการเดินทางของตัวละครหลักที่รับบทโดย Maika Monroe และ ‘ไอ้ขายาว (Longlegs)’ ฆาตกรโรคจิตที่รับบทแบบพลิกโลกโดย Nicolas Cage นั้น ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะคนหลัง ที่ต้องเรียกว่าเล่นได้เฮี้ยนและสลัดความเป็น ‘ตัวเอง’ ทิ้งไปแทบจะเกือบหมด ถ้าไม่ติดที่ในบางช่วงยังมีหยดของความเป็นตัวเค้าโผล่มาให้เห็นประปราย เราก็เชื่อได้ว่านี่คือการแสดงระดับสุดยอดที่เขามอบให้ในรอบหลายปี
![](https://ticycity.com/wp-content/uploads/2024/08/LL_003.jpg)
แน่นอนว่าหนังมีจุดที่ชวนให้รู้สึกเอ๊ะและสงสัย โดยไม่อธิบายที่มาที่ไปอะไรนัก ซึ่งส่วนตัวมองว่า เป็นจุดที่สามารถยกประโยชน์ให้จำเลยได้ เพราะมันคือองค์ประกอบของความคลุมเครือและความไม่เข้าใจ แต่ปลีกย่อยและไม่ได้กระเทือนต่อโครงสร้างเรื่องหลัก อันเป็นแบบฉบับที่พบเห็นได้จากหนังที่มันอินสไปร์มาอย่าง Cure, Kairo, Tokyo Sonata หรือแม้แต่หนังผีจัมป์สแกร์บ้าๆ อย่าง Ju-On สองภาคแรก
![](https://ticycity.com/wp-content/uploads/2024/08/LL_005-3.jpg)
ซึ่งนั่น นำมาซึ่งความผิดพลาดในช่วง 1/3 ท้ายของเรื่อง เมื่อจู่ๆ หนังเกิดอยากจะ ‘เล่าเรื่องตามขนบ’ แล้วบอกเล่าเฉลยแบบ A B C D ทำลายก้อนความคลุมเครือที่มันสร้างมาก่อนหน้า และดิ่งเหวลงไปสู่ความตกรางพังพินาศ เมื่อผลลัพธ์สุดท้าย กลายเป็นการปิดจบที่เรียบเรื่อย และแผ่วปลายไร้พลังอย่างน่ากังวล
ทั้งหมด ราวกับผู้กำกับจะคิดได้ว่า ไม่เอาละ ไม่อยากให้คนดูสับสนงงงวยไปกว่านี้ เฉลยมันเลยละกัน ซึ่งมันไม่ผิด ถ้าอยากจะมอบความกระจ่างให้กับผู้ชม แต่มันสมควรที่จะเป็นไปอย่างมั่นใจต่อสิ่งที่มันสร้างมาก่อนหน้า ไม่ใช่โยนทิ้งแล้วกลายเป็นความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบมองหน้ากันก็ไม่รู้จะพูดอะไรถูกเช่นนี้
และถ้าพิจารณาว่า หากเอาแก่นของเรื่องมา ‘คลี่’ กางดูกันจะๆ จะพบว่า มันมีเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายจนถึงดาดๆ เอามากๆ ที่ถูกประคองด้วยเทคนิคและการบอกเล่ามาโดยตลอด การโยนอุปกรณ์และลูกเล่นที่มันใช้มาตลอดจึงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
![](https://ticycity.com/wp-content/uploads/2024/08/LL_002-1.jpg)
แต่โดยสรุปแล้ว Longlegs โดยภาพรวมก็ต้องถือว่าทำถึง มันส่งมอบงานภาพอันประณีต มันถ่ายทอดได้อย่างมีสไตล์ มันบอกเล่าด้วยการโชว์ให้เห็นและทิ้งให้เป็นความคลุมเครือให้คิดตาม และมัน ‘สยอง’ แบบเย็นเยียบที่ค่อยๆ ก่อตัวอย่างช้าๆ ในม่านหมอกของความไม่แน่นอน และไม่แน่ใจ ในองค์ประกอบที่รวมกันได้อย่างพอดี ไม่มีขาดเกิน….
‘และเป็นอีกครั้ง ที่ต้องกล่าวชม Oz Perkins ผู้กำกับ ว่างาน “คารวะครู” สายตะวันออกชิ้นนี้ของเขา มันทรงพลัง และดังปังทำถึงดีจริงๆ…’
Leave feedback about this