เปิดประสบการณ์ดินเนอร์มื้อหรู กับเชฟบอฟฟา มิชลิน 2 ดาว ในเมนูอินโนเวทีฟ-อิตาเลียน 5 คอร์ส พร้อมเห็ดทรัฟเฟิลขาว จากแคว้นอัลบา

เชฟกาเบรียลเล่ บอฟฟา (Gabriele Boffa) เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของ โลคอนดา เดล ซันตูฟฟิชโช (Locanda del Sant’Uffizio) ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งมิชลินสตาร์ 2 ดาว ของโรงแรมระดับลักซ์ชัวรี “เรเล ซันตูฟฟิชโช เวลเนส แอนด์ สปา (Relais Sant’Uffizio Wellness & Spa)” ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่องุ่นและหุบเขาอันงดงามของเมืองมอนแฟอรัตโต้ (Monferrato) ในแคว้นพีดมอนท์ (Piedmont) และเป็นหนึ่งในห้องอาหารภายใต้การบริหารของ เอนริโก บาร์โตลินี (Enrico Bartolini) เชฟอิตาเลียนชื่อดัง เจ้าของมิชลินสตาร์มากที่สุดถึง 12 ดวงจากร้านอาหาร 8 แห่งของเขาที่ตั้งอยู่ทั่วอิตาลี
เชฟบอฟฟา เกิดในปี 1987 และเติบโตในเมืองเล็กๆ ชื่อ เดียโน ดัลบา (Diano d’Alba) ในภูมิภาคลันเก (Langhe) ของพีดมอนต์ เรียนรู้การทำอาหารจากคุณย่าสองคนที่ทำงานในร้านอาหาร จึงสนใจและซึมซับวัฒนธรรมอาหารจากท้องถิ่นมาแต่เยาว์วัย
หลังจากจบการศึกษา เขาเริ่มทำงานในร้านอาหารอิตาเลียนหลายแห่งรวมทั้ง ปิอาซซา ดูโอโม่ (Piazza Duomo) ร้านอาหารมิชลินระดับ 3 ดาว ของเชฟเอนริโก คริปปา (Enrico Crippa) และยังสั่งสมประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศกับเชฟดัง ๆ อาทิ
แยนนิก อัลเลียโน (Yannick Alléno) เชฟชาวฝรั่งเศสที่ได้รับดาวมิชลิน 3 ดวง จากร้านอาหาร 3 แห่งของเขา จากนั้นข้ามไปเม็กซิโกทำงานกับเชฟเอนริเก้ โอลเวร่า (Enrique Olvera) ที่ปูโจล (Pujol) ร้านอาหารที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในเม็กซิโกซิตี้ ติดอันดับ 50 World’s Best Restaurants มาแล้วถึง 6 ครั้ง และร่วมงานกับเชฟแอนโดนิ อดูริช (Andoni Aduriz) เชฟมิชลิน 2 ดาวในสเปน ที่ร้านมูการิต์ซ (Mugaritz) หนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของสเปน
หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดน เชฟบอฟฟากลับมาอิตาลีเพื่อร่วมงานกับโรงแรมหรูระดับห้าดาว คาสเตลโล ดี กัวเรเน (Castello di Guarene) ในลันเก (Langhe) พร้อมฝีมืออันโดดเด่น จนเข้าตาเชฟเอนริโก บาร์โตลินี จึงได้ทาบทามเชฟหนุ่มให้มาร่วมงานในตำแหน่ง Executive Chef ที่ โลคอนดา เดล ซันตูฟฟิชโช หนึ่งในร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสุดหรูภายใต้การบริหารของเขา
เชฟกาเบรียลเล่ บอฟฟา วัย 36 ปี สร้างชื่อจากแนวทางการทำอาหารสไตล์อินโนเวทีฟ ที่เรียบหรู เชื่อมโยงรสชาติของแคว้นพีดมอนต์เข้ากับเทคนิคการปรุงอาหารร่วมสมัย จานเด่นมีตั้งแต่จานคลาสสิกไปจนถึงเมนูสร้างสรรค์ซึ่งยังคงเชื่อมโยงไปสู่รากเหง้าของอาหารท้องถิ่น

ปรัชญาการทำอาหารของเขา คือ อาหารอร่อยต้องเริ่มต้นด้วยวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยม เชฟบอฟฟาจึงใส่ใจในการจัดหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดทั้งจากท้องถิ่นและแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียง พร้อมปรุงอย่างพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ทำให้อาหารแต่ละจานกลายเป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์ทั้งรูปลักษณ์และรสชาติความอร่อย นับเป็นเชฟรุ่นใหม่ที่ช่วยส่งเสริมและยกระดับวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของอิตาลีให้ก้าวไปอีกขั้น จนสามารถคว้าดาวมิชลินมาได้ถึงสองดวง
สำหรับเมนู 5 คอร์สที่เชฟบอฟฟา ออกแบบพิเศษสำหรับ ลา บาเช่ กริลล์เฮ้าส์ แอนด์ ไวน์บาร์ (La Brace Grill House & Wine Bar) ต้นถนนเอกมัย สุขุมวิท 63 ได้แก่


อามูส บุช จานเรียกน้ำย่อยเรียกความสดชื่น จากเมนูคลาสสิกของแคว้นพีดมอนท์ วิเทลโล ทอนนาโด (Vitello Tonnato) ที่ทำจากเนื้อลูกวัวและปลาทูน่า มาปรับแต่งเป็นเมนูปลาล้วน โดยใช้ปลาแมคเคอเรลเนื้อแน่นแทนปลาทูน่า เสิร์ฟพร้อมซอสครีมสูตรพิเศษ ออนท็อปด้วยแอนโชวีและเคเปอร์
จานที่ 2 – ปลาค็อด เชฟบอกว่าได้อิทธิพลจากแคว้นลิกูเรีย (Liguria) ที่อยู่ใกล้กัน โดยยกระดับให้ดูร่วมสมัยขึ้น โดยนำเนื้อปลาค็อดไปสตีมด้วยเทคนิคพิเศษของเชฟ ทำให้ปลาสด เนื้อแน่น และคงความหวาน เสิร์ฟกับซอสปรุงกับเพสโต้ ผสมกับปลาแฮร์ริ่งรมควันและคาเวียร์



จานที่ 3 – ริซอตโต้ เมนูสุดคลาสสิกของอิตาลี สูตรของเชฟถูกใจนักชิมชาวไทย หลายคนกินหมดจาน… ด้วย Cremona มัสตาร์ดรสเผ็ดหวานที่เชฟนำมาจากอิตาลี รสชาติคล้ายวาซาบิ ที่เคี่ยวอย่างเข้มข้นกับน้ำสต็อกไขกระดูกวัว (bone marrow) ตัดรสด้วยผักดองชิ้นเล็ก ๆ
จานที่ 4 – อกไก่เบรส (Bresse) จากฝรั่งเศส เสิร์ฟกับซอสฟัวกราส์ แอปเปิ้ลชิ้นเล็ก และผักปวยเล้งฝรั่ง ไฮไลท์ด้วยด้วยทรัฟเฟิลขาวจากอัลบา (Alba) ที่เชฟสไลซ์บาง ๆ สด ๆ ทุกจาน เนื้อไก่ล้วนแต่นุ่มมากและซอสก็เนียนหวาน
จานที่ 5 – ขนมหวาน เค้กชีบูสครีม (Chiboust Cream) กับเฮเซลนัท Hazelnut ได้ชื่อว่า “ราชินีถั่วจากแคว้นพีดมอนท์” เสิร์ฟกับซอสส้มผสมเหล้าหวานแกรนด์ มาเนียร์ (Grand Marnier) จากฝรั่งเศส รอบ ๆ ตัดรสด้วยผลไม้สดรสอมเปรี้ยวอมหวาน เป็นของหวานปิดท้ายมื้อพิเศษ 2 ดาวมิชลิน อย่างลงตัว

เชฟบอฟฟา จัดดินเนอร์ 21-24 ธันวาคม ที่ผ่านมา และมื้อพิเศษคืนคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม 6 คอร์ส ราคาท่านละ 8,500++บาท พร้อมไวน์ให้เลือกจับคู่ ราคาเริ่มต้น 2,300++บาท ที่ ลา บาเช่ กริลล์เฮ้าส์ แอนด์ ไวน์บาร์ ต้นถนนเอกมัย (โทร.094 540 6662)
Leave feedback about this